นนทบุรี ถนนทรุดตัวหน้าวัดบ่อ ผู้รับเหมากราบขออภัยประชาชน คาดสาเหตุถนนทรุดเกิดจากท่อประปาแตก
1 min readนนทบุรี คืบหน้า ถนนทรุดตัวหน้าวัดบ่อ ผู้รับเหมากราบขออภัยประชาชน คาดสาเหตุถนนทรุดเกิดจากท่อประปาแตก พร้อมแจ้งเลื่อนเปิดจราจรเป็นวันที่ 9 เม.ย.67
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 เม.ย.67 ว่าที่ร้อยตรีวรกฤษ อาษาสะนา อายุ 36 ปี วิศวกรผู้ควบคุมงานของบริษัทฯผู้รับเหมาการไฟฟ้านครหลวง ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณ จุดกลับรถใต้สะพานพระราม4 หน้าวัดบ่อ ท่าน้ำปากเกร็ด ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีการนำรถแบคโฮและเครื่องจักรขนาดใหญ่ มาเร่งนำดินและหินมาถมอัดสลับกันหลายๆชั้นให้เสมอกับผิวถนนเดิม และป้องกันการทรุดตรวจซ้ำ ก่อนนำแผ่นคอนกรีตวางให้เป็นแนวระนาบเสมอกัน และลาดยางบดอัดซ้ำให้มีความแน่น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้ได้มีการเลื่อนกำหนดการเปิดการจราจรจุดดังกล่าวจากวันที่ 8 เม.ย.67 เป็นช่วงเช้าของวันที่ 9 เม.ย.67
ดร.ชัยเมศร์ หรือดร.แก้ว กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนหลังเกิดเหตุมีข้อมูลว่าอาจเกิดจากท่อน้ำประปาในพื้นที่ได้รับความเสียหายจนทำให้มีน้ำทะลักมากัดเซาะพื้นผิวดินบริเวณถนนที่ทรุด ซึ่งเห็นได้จากภาพคลิปวงจรปิดจังหวะที่ถนนทรุดตัวมีน้ำทะลักออกมา ซึ่งไม่ใช่น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาแต่เป็นน้ำจากท่อประปาที่ได้รับความเสียหาย หลังจากนี้จะเป็นคนกลางประสานกับหน่วยงานของจังหวัดนนทบุรีในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และหลังจากนี้จะมีการประสานทางสภาวิศวกรฯ ลงมาตรวจสอบบริเวณโครงสร้างถนนบริเวณนี้เพื่อประเมินความเสียหายที่จะส่งผลกระทบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชน และวันนี้เป็นวันที่ 2 อยากให้หน่วยงานราชการไม่ว่าจะเป็นทางจังหวัดนนทบุรี เทศบาล ทางหลวง หรือประปาเข้ามา ตรวจสอบตนคิดว่าคงไม่เกิดเหตุแค่นี้ ตอนนี้วัดได้รับความเดือดร้อนถ้าทุกภาคส่วนไม่ลงมาดู คาดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีกโชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บถ้าระหว่างรถวิ่งแล้วถนนยุบลงไปอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตได้
ว่าที่ร้อยตรีวรกฤษ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องขออภัยด้วย เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ผลความเสียหายของทางวัดที่พระอุโบสถตอนนี้ได้เข้าไปประสานกับทางเจ้าอาวาสวัด และตรวจสอบการเคลื่อนตัวของรอยแยกและนำทีมสำรวจของประกันโครงการเข้ามาดูเพื่อวิเคราะห์และพิจารณาชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนโครงสร้างหลักตอนนี้ยังไม่มีปัญหา รอยแยกจะเป็นส่วนของงานสถาปัตย์ที่เป็นปูนปั้น ยังไม่อันตรายเท่าไหร่และพอแก้ไขปัญหาได้
พระมหาสวัสดิ์ ฐิตวัณโณ เจ้าอาวาสวัดบ่อ กล่าวว่า ในส่วนของทางวัดบ่อก็ได้ให้ทางลูกศิษย์ไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.ปากเกร็ด แล้ว ส่วนกรณีที่มีข่าวออกไปว่าทางวัดเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท ยังไม่เป็นความจริง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการประเมินราคาที่เสียหายแต่อย่างใด ซึ่ง อุโบสถนี้สร้างด้วยงบประมาณ 70 กว่าล้านบาท ที่ญาติโยมศรัทธาช่วยกันสร้าง ความเสียหายต่างๆต้องคอยดูกันอีกครั้ง ซึ่งบริเวณด้านบนของ อุโบสถนี้มีพระประธานที่มีอายุมากถึง 240 ปี ซึ่งความเสียหายที่จะเกิดมันประเมินราคาไม่ได้ ในส่วนนี้ก็เป็นการลงประจำวันไว้เบื้องต้น ตอนนี้ก็ยังคงกังวลว่าวันข้างหน้าจะมีการทรุดลงอีกหรือไม่ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาทางด้านเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าคณะอำเภอหลายวัดได้เดินทางมาให้กำลังใจที่วัดบ่อแห่งนี้ สุดท้ายก็อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปสำรวจ โครงสร้างอุโบสถวัดและกำแพงวัดให้ด้วย ซึ่งในส่วนนี้ทางโยมด็อกเตอร์แก้ว ได้ให้ความช่วยเหลือจะประสานทางสภาวิศวกรรมให้เข้ามาตรวจสอบ