จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

นักธุรกิจสาว ร้องสายไหมต้องรอด คลีนิกดังย่านรังสิต ทำ “จิมิ” ไหม้เป็นแผลติดเชื้อ หลังไปเลเซอร์ขนเพชร

1 min read

กรุงเทพมหานคร- นักธุรกิจสาว ร้องสายไหมต้องรอด คลีนิกดังย่านรังสิต ทำ “จิมิ” ไหม้เป็นแผลติดเชื้อ หลังไปเลเซอร์ขนเพชร คาดใช้หมอเถื่อน

วันนี้เวลา 13.00.น. ที่เพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม กทม. น.ส.เสาวลักษณ์ ไกรแก้ว อายุ 36 ปี นักธุรกิจสาว ชาวรังสิต ปทุมธานี เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีไปเสริมความงามที่คลีนิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรังสิต ปทุมธานี ด้วยการซื้อคอสเลเซอร์ขนเพชร และได้ไปทำการเลเซอร์ที่คลีนิก เมื่อวันที่ 18 มี.ค.67 หลังจากเลเซอร์มีอาการปวดแสบปวดร้อนที่อวัยวะเพศมาก หลังจากนั่นแผลเริ่มพุพอง มีอาการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น จนแพทย์ที่รักษาต้องสั่งนอนโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 3 คืน

น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าวว่า ตนรู้จักคลีนิกแห่งนี้ทางเฟสบุ๊ค จากการยิงโฆษณาของทางคลีนิก เห็นว่าเป็นคลีนิกที่มีชื่อเสียง จึงทักไปพูดคุย และนัดวันเข้าไปยิงเลเซอร์ขนเพชร ในวันที่ 18 มี.ค.67 เวลา 16.00 น. โดยคิดราคาครั้งละ 2,000 บาท ตนผิดสังเกตุตั้งแต่เริ่มทำการยิงเลเซอร์ เนื่องจากคนทำการยิงเลเซอร์แต่งตัวเหมือนพนักงานทั่วไปไม่ได้ใส่ชุดแพทย์ หลังยิงเลเซอร์เสร็จ ตนรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากทั่วอวัยวะเพศ จึงได้ปรึกษากับทางคลีนิก ตอนนั้นคลีนิกแจ้งเป็นอาการปกติ เดี๋ยวจะหายไปเอง ตนจึงกินยาลดไข้ ยาแก้ปวด แล้วนอนพัก จากนั้นวันรุ่งขึ้นตนตื่นมา หลังจากอาบน้ำรู้สึกปวดแสบที่อวัยวะเพศมาก จึงได้ก้มมองดูเห็นเป็นตุ่มน้ำใสๆพองรอบๆอวัยวะเพศ พออาบน้ำเสร็จเอาผ้าเช็ดตัวเช็ด พบว่าผิวหนังที่อวัยวะเพศเปื่อยยุ่ยหลุดติดออกมากับผ้าเช็ดตัว และมีอาการแสบมาก พร้อมกับมีไข้ จึงโทรกลับไปแจ้งทางคลีนิกอีกครั้งถึงอาการที่เกิดขึ้น จากนั้นตนได้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านมากินและทา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล พบว่าแผลจากการยิงเลเซอร์มีอาการติดเชื้อรุนแรง แพทย์จึงให้แอดมิดเพื่อดูอาการเนื่องจากอยู่ใกล้ช่องคลอด และประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2 – 3 หมื่นบาท (หากไม่ติดเชื้อเพิ่ม) ตนจึงติดต่อกลับไปที่คลีนิกอีกครั้งเพื่อแจ้งค่าใช้จ่ายในการรักษา โดยขอให้ทางคลีนิกช่วยค่ารักษา 20,000 บาท ส่วนที่เหลือตนจะเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด แต่ทางคลีนิกได้แจ้งว่าให้ตนทำการรักษาได้เลย คลีนิกจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเอง ตอนนั้นตนรู้สึกสบายใจและชื่นชมในความรับผิดชอบของทางคลีนิกมาก ระหว่างนอนรักษาตัวตนได้อัพเดทอาการให้ทางคลีนิกทราบทุกวัน หลังจากตนนอนให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 3 วัน อาการเริ่มดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีค่ารักษาอยู่ที่ 42,642 บาท ตนจึงสำรองจ่ายไปก่อนและส่งใบเสร็จให้กับทางคลีนิกเพื่อเบิกเงินคืนตามที่คลีนิกแจ้งไว้ แต่พอหลังจากส่งใบเสร็จไปเหตุการณ์กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที ทางคลีนิกปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างแต่เพียงว่าไม่มีความจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล อีกทั้งอาการบาดเจ็บ อาการติดเชื้อก็ไม่เกี่ยวกับทางคลีนิก คลีนิกขอคืนเงินค่ายิงเลเซอร์ 2,000 บาท แล้วจบกันไป ตนเห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง คลีนิกปัดความรับผิดชอบ อย่างน่าอาย เรื่องนี้ตนไม่ได้เรียกร้องเงินค่าทำขวัญที่ทำให้ตนเจ็บตัวต้องมานอนโรงพยาบาลเลยแม้แต่บาทเดียว เงินจำนวน 42,642 บาท เป็นเงินค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายจริงทั้งสิ้น ตนจึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมจากเพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว เพื่อไม่ให้คลีนิกไปทำแบบนี้กับคนอื่นๆอีก

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นจะประสานไปยัง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพและมาตราฐานในการประกอบวิชาชีพ ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อให้เกิดคาามเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ตามข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อไป

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.