ขาเมาหาย 6 วันเจอเป็นศพถูกเผา เมียหน้าบวมช้ำอ้างล้มแล้วแกะแผล
1 min readบุรีรัมย์ อำเภอนางรอง -ชาวบ้านพบศพชายส่วนหัวมีลักษณะถูกเผา มีร่องรอยสัตว์มาแทะศพ หลังจากหายออกจากบ้านไปได้ 6 วัน พ่อเผยปกติลูกจะบอกว่าจะไปไหน แต่ครั้งนี้ไม่บอกจึงคิดว่าลูกเป็นอันตราย ขณะภรรยาผู้ตายอ้างว่าพยายามตามหาตั้งแต่หายไป ยอมรับเคยทะเลาะทำร้ายกัน แต่ที่ตนหน้าบวมช้ำเพราะเมาเหล้าแล้วล้ม ตำรวจเร่งสอบ
วันที่ 6 พ.ค.67 ร.ต.อ.วีระวุฒิ รัตน์ประโคน รอง สว(สอบสวน) สภ.หนองไทร อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนพบศพคนเสียชีวิตอยู่บริเวณป่าหนาม ริมห้วยลำมาศ หมู่7 บ้านหนองหว้า ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามร่วมใจปู่อินทร์ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุห่างจากถนนสาธารณะประมาณ 1 กม.พบศพชายทราบชื่อต่อมานายนพดล หรือโด่ง ไหละครบุรี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.7 บ้านหนองหว้า ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สภาพศพนอนหงาย มีร่องรอยการกัดแทะของสัตว์ ส่วนหัวมีร่องรอยการถูกเผา คาดเสียชีวิตมาประมาณ 6 วัน
นาย สุชาติ ทองศรี อายุ46 ปี บ้านเลขที่138 หมุ่7 บ้านหนองหว้า คนเจอศพเป็นคนแรก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งว่ามีคนหายเคยช่วยตามหาตั้งแต่มีการประกาศ วันนี้จึงเดินมาบริเวณดังกล่าว มองไกลๆเห็นนกกำลังจิกซากอะไรบางอย่าง จึงเดินเข้ามาใกล้ เห็นขามนุษย์จึงคิดว่าน่าจะเป็นคนที่หายไปอย่างแน่นอน
สอบถามนายอุดม ไหลครบุรี อายุ 68 พ่อคนเสียชีวิตเล่าว่า ปกติลูกชายจะออกไปรับจ้างทำงานทั่วไป ทุกครั้งที่จะออกไปไหนมักจะบอกให้พ่อเสมอ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนหากับข้าวให้ลูกกินแล้วออกไปทำงาน พอกลับมากับข้าวอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่เอะใจคิดว่าไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ
วันต่อมาก็ไม่เห็นลูกชายกลับบ้าน พอวันที่ 3 ที่หายไปจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้คนออกตามหา ไปถามหมอดูหลายที่ทักมาต่างกันไป บางคนบอกว่าอยู่บริเวณนี้ บางคนบอกว่าไปต่างจังหวัด
ผ่านไปเป็นวันที่ 5 นับจากที่หายไป ตนรู้สึกว่าลูกชายน่าจะเป็นอันตราย เพราะผิดวิสัยของลูกที่ต้องบอกพ่อทุกครั้ง จนกระทั่งมีชาวบ้านมาบอกว่าพบศพแล้ว ส่วนทางด้านคดีต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะลูกชายไม่เคยมีศัตรู
ขณะที่นางฉลวย ทองจำปี อายุ 41 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่าอยู่กินกับสามีแบบไม่ได้แต่งและไม่มีลูก เวลาออกไปทำงานจะไปด้วยกันหาข้าวให้สามีกินตลอด แต่สามีผอมเพราะดื่มเหล้าเยอะ หลังจากสามีหายไปได้ออกติดตามอีกทางหนึ่งและไปแจ้งความกับตำรวจเช่นเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสภาพใบหน้าของนางฉลวย ว่าทำไมถึงมีร่องรอยเหมือนถูกทำร้าย นางฉลวย บอกว่าเกิดจากเมาแล้วล้ม แต่ไปแกะแผลทำให้แผลหายช้า ยอมรับว่าเคยทะเลาะทำร้ายร่างกายกับสามีเป็นประจำ แต่ที่เห็นคือเมาแล้วล้ม
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวจังหวัดบุรีรัมย์