รวบแล้วสาวเดรสดำฉกสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท สารภาพติดพนันออนไลน์หาเงินใช้หนี้ พบประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์รวม 5 คดี แต่ไม่เข็ด
1 min readเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 11 พ.ค. พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.บางขุนเทียน รับแจ้งจากนางสมศรี โตศะศุข อายุ 84 ปี เจ้าของห้างทองโชคดี ซึ่งถูกคนร้ายเป็นสาวแต่งชุดเดรสสีดำ วิ่งราวเลทสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาท บริเวณห้างทองโชคดี เลขที่ 178 ข้างตลาดปิ่นทอง ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพ เมื่อวันที่ (10 พ.ค.) ว่า ขณะนี้ได้เงินมาส่วนหนึ่ง จะขอจ่ายค่าทองส่วนหนึ่งก่อน แล้วจะขอผ่อนชำระอีกเดือนละ1หมื่นไปจนครบจำนวน แต่นางสมศรี คิดว่าอาจผ่อนจ่ายแค่เดือนเดียวแล้วหายไปเลย
ต่อมา พ.ต.อ.กฤติเดช จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี สว.สส.สน.บางขุนเทียน ใช้กลอุบายให้คนร้ายมาเจรจายอมความที่สน.บางขุนเทียน เมื่อถึงเวลานัดหมาย คนร้ายได้นั่งรถแกร็ปโบลต์ มาลงหน้าสน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับเลขที่ ม.จ.386/2567 ลงวันที่ 11พ.ค.67 ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ กับน.ส.เกตุกนก หรือ ตาล อายุ30ปี แล้วควบคุมตัวมาสอบสวนทันที
จากการสอบสวน น.ส.เกตุกนก ให้การว่าตนติดการพนันออนไลน์ แล้วเล่นพนันเสีย จนต้องไปยืมสร้อยคอทองคำเพื่อนไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน แต่ก็เสียหมดไปกว่า 5 หมื่นบาท รู้สึกเครียดกลัวเพื่อนต่อว่า คิดอะไรไม่ออก จึงได้นั่งรถ จยย.รับจ้าง ออกจากที่พักย่านราชปรารภ มาเรื่อยๆ ถึงเขตพื้นที่ สน.บางขุนเทียน ซึ่งเคยพักอาศัยอยู่ย่านซอยกำนันแม้น จึงตัดสินใจเลือกที่จะทำวิธีการนี้ เมื่อสบโอกาสจึงได้ลงมือทำ โดยนำเลททองคำที่ก่อเหตุ ไปขายให้ร้านทองกิมไท้เฮง ย่านราชปรารภ เป็นจำนวนเงิน 83,600 บาท เมื่อได้เงินมาจึงได้ไปไถ่สร้อยทองของเพื่อนคืนออกมาประมาณกว่า 3 หมื่นบาท และได้นำเงินที่เหลือไปเล่นการพนันเสียอีกประมาณ15,000 บาท โดยคิดว่าหากเล่นได้จะนำไปคืนร้านทอง เหลือเงินสดจากการขายทองประมาณ1หมื่นบาท จนกระทั่งเห็นข่าวในสื่อ จึงได้ทำการติดต่อไปที่ร้านทองเพื่อขอชดใช้ และติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอมอบตัวดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติน.ส.เกตุกนก พบว่าเคยก่อคดีลักทรัพย์และลักทรัพย์นายจ้างในท้องที่สน.บางรัก ทั้งหมด5คดี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2564 หากใครเป็นผู้เสียหายเคยถูกน.ส.เกตุกนกก่อเหตุให้ไปดูตัวได้ที่สน.บางขุนเทียน