รรท.ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกยุทธวิธีตำรวจและการประเมินสถานการณ์ ในหน้าที่งานป้องกันปราบปราม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนเองมีความห่วงใยในการปฏิบัติหน้าที่ของตํารวจสายตรวจที่จะต้องเผชิญเหตุ ระงับเหตุและจับกุมคนร้ายที่วิกลจริตหรือคุ้มคลั่งรวมถึงสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นทั้งมีอาวุธและไม่มีอาวุธ ซึ่งต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และอาวุธ ในการเข้าระงับเหตุและอาจเกิดการสูญเสียทั้งทรัพย์สินชีวิตและร่างกายของคนร้ายหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติขึ้นได้ จึงได้ปรึกษากับพล.ต.ท.สำราญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกี่ยวกับสถานการณ์จริงที่เจ้าหน้าที่สายตรวจจะต้องพบเจอ เพราะในปัจจุบันมีหลายเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตํารวจต้องบาดเจ็บและถึฃขั้นเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

โดยการที่กองบัญชาการตํารวจนครบาลริเริ่มโครงการดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดีในการทบทวนยุทธวิธีและฝึกให้เกิดความชํานาญเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงรวมถึงการประเมินสถานการณ์ว่ากําลังพล 2 นาย ของตํารวจสายตรวจเพียงพอต่อการระงับเหตุนั้นๆหรือไม่ หรือจะต้องเรียกขอกําลังเสริมจากสถานีหรือหน่วยงานข้างเคียงช่วยเข้าระงับเหตุ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในตัวของเจ้าหน้าที่และผู้ก่อเหตุด้วย โดยสํานักงานตํารวจแห่งชาติยินดีสนับสนุนงบประมาณการจัดฝึกอบรมอย่างเต็มที่
จากนั้นมีการแสดงสาธิต จําลองเหตุการณ์ระงับเหตุ 2 สถานการณ์ โดยเหตุแรกเป็นการระงับเหตุซึ่งหน้าของตํารวจสายตรวจ 2 นาย โดยมีอุปกรณ์เป็นเครื่องช็อตไฟฟ้าและไม้ดิ้ว ส่วนเหตุที่สองเป็นสถานณ์คนคลุ่มคลั่ง ซึ่งใช้กําลังเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือในการระงับเหตุ
โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุภายหลังการแสดงสาธิตว่า สถานการณ์ที่ 1 ตนตั้งข้อสังเกตุว่าการรักษาระยะห่างของเจ้าหน้าที่กับผู้ก่อเหตุระยะ 21 เมตร ซึ่งมีการทดลองจริงแล้วพบว่าไม่สามารถระงับผู้ก่อเหตุที่ใช้อางุธมีดได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุอาจคิดสู้และพุ่งเข้ามาแทงจนได้รับอันตรายได้ จึงขอกําชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มาก ส่วนสถานการณ์ที่ 2 ถือได้ว่าปฏิบัติตามยุทธวิธีได้อย่างดีเยี่ยม

ทั้งนี้การฝึกอบรมดังกล่าวถือเป็นครั้งแรก โดยกองบังคับการตํารวจนครบาล 1 – 9 จะพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจในสังกัดจาก 88 สถานี โดยเลือกมาสถานีละ 5 นาย รวมทั้งสิ้น 440 นาย แบ่งการฝึกทบทวนออกเป็น 9 รุ่น ในระยะเวลา 27 วัน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม – 17 มิถุนายน 2567

        

        Loading...