อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ผกก.2 บก.ปอศ. มั่นใจสำนวนคดีน้ำมันเถื่อนค่อนข้างสมบูรณ์ เชื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้

1 min read

ผกก.2 บก.ปอศ. มั่นใจสำนวนคดีน้ำมันเถื่อนค่อนข้างสมบูรณ์ เชื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ เร่งให้สำนวนแล้วเสร็จภายใน 6เดือน เพื่อส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง

จากกรณีที่มีความเห็นจากพนักงานอัยการสูงสุดว่าการดำเนินคดียึดเรือน้ำมันเถื่อนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. อาจทำได้ยากเพราะพื้นที่จับกุมเป็นพื้นที่นอกราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ยืนยันว่า จุดที่จับกุมเป็นพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ อยู่หากออกจากเส้นฐาน 80ไมล์ทะเล หากอยู่อยู่ในพื้นที่น่านน้ำไทยจะห่างเพียง 12 ไมล์ทะเล ทำให้คดีนี้ถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพราะฉะนั้นอำนาจในการสอบสวนดำเนินคดีจะเป็นของพนักงานอัยการสูงสุด และมีตำรวจเข้าไปสอบสวนร่วมด้วย

การจากจับกุมผู้กล่าวหา ยืนยันว่า มีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่ามีขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน โดยใช้ช่องว่างทางกฎหมายในพื้นที่นอกราชอาณาจักร จึงได้แจ้งไปทางศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปมน.ตร. ให้ทราบ ก่อนที่จะมีคำสั่งให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง ทั้ง บก.ปอศ. /ตำรวจน้ำ และกองบังคับการปราบปรามสืบสวนดำเนินคดีเรื่องนี้

การจับกุมวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา พบการกระทำความผิด 2จุด ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จุดแรกประกอบด้วยเรือ เจพี โชคบุญชู และกำไลเงินเหล็ก เจ้าหน้าที่พบน้ำมันเถื่อนในเรือเจพี โดยมีเรืออีกสองลำขนาบข้าง // จุดที่2 เจอเรือดาวรุ่ง และ ซีฮอต ซึ่งเรือซีฮอตพบน้ำมันเถื่อนอยู่ เมื่อสอบถามถึงที่มาของน้ำมันเถื่อน กลับไม่ได้รับคำตอบ แต่พบว่า 3ลำ ใน5ลำ คือ เจพี ดาวรุ่งและซีฮอต มีคนสั่งการคนเดียวกัน ซึ่งทราบภายหลังว่าคือ นายเล็ก แต่ยังไม่มีข้อมูลชื่อจริงและรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งบุคคลนี้ก็เป็นคนที่บงการให้ลูกเรือลักเรือหลบหนี ส่วนเรือที่เหลือ 2 ลำก็มีผู้สั่งการอีกกลุ่มนึง

มีข้อมูลจากผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นชุดสืบสวนคดีน้ำมันเถื่อน ที่เคยจับกุมขบวนการน้ำมันเถื่อนก่อนหน้านี้สองครั้ง โดยผู้ต้องการให้การว่าซื้อน้ำมันเถื่อนจากจุดซื้อขายน้ำมันเถื่อนซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ ทำให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปตรวจสอบจุดนั้น และพบการกระทำความผิด ซึ่งส่วนนี้ทำให้มั่นใจว่าการสืบสวนมีหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่จะเข้ามาประกอบในสำนวนค่อนข้างชัดเจน จึงไปปรึกษากับทางพนักงานเอกการสูงสุดเมื่อวานนี้ โดยอัยการแนะนำให้ไปสอบปากคำหนึ่งหน่วยงานเพิ่มเติมเท่านั้น นั่นหมายความว่าตอนนี้ข้อมูลค่อนข้างจะสมบูรณ์ระดับนึงแล้ว และจะเร่งทำสำนวนให้แล้วเสร็จภายในหกเดือน

พ.ต.อ.ชัชวาล ยังเปิดเผยอีกว่า เรือน้ำมันเถื่อน5ลำ ที่จับกุมได้ มีเพียง1ลำ ที่เป็นเรือไทยมีทะเบียนถูกต้อง ส่วนอีก 4ลำเป็นเรือเถื่อนทั้งหมด

แบ่งเป็น เรือโชคบุญชู เป็นเรือไทย มีทะเบียนรู้ตัวเจ้าของ

เรือกำไลเงินเหล็ก และ เรือเจพี มีข้อมูลว่าขายให้ คนมาเลเซีย ไปพร้อมกัน เมื่อขายให้ชาวต่างชาติเจ้าหน้าที่จึงเพิกถอนทะเบียน โดยจากข้อมูลก็พบว่าชาวมาเลย์ คนนี้ออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว

ส่วน เรือดาวรุ่ง และซีฮอต เป็นเรือเถื่อนไม่มีทะเบียน ไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นของใคร แต่ในทางสืบสวนรู้ตัวคนที่คาดว่าเป็นเจ้าของแล้ว

โดยพบว่ามีข้อพิรุธเพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยเรียกเจ้าของเรือที่มีทะเบียน รวมถึงกลุ่มคนที่คาดว่าครอบครองเรือเถื่อนมาสอบปากคำ แต่ก็ไม่มีใครมาให้ข้อมูลทำให้คาดว่ากลุ่มนี้เป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด

ส่วนการจับกลุ่ม เสี่ยโจ้ ปัตตานี เรื่องการค้าน้ำมันเถื่อนก่อนหน้านี้จะสามารถขยายผลมาถึงเรื่องเรือเถื่อนกลุ่มนี้ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ชัชวาล บอกว่า ทาง บก.ปอศ.จะตรวจสอบเรื่องเอกสาร ส่วนการสืบสวนจะเป็นหน้าที่ของกองบังคับการปราบที่จะหาหลักฐานเรื่องเส้นทางการเงิน หลักฐานทางเทคโนโลยี ว่าจะเชื่อมโยงกับใครบ้าง

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.