ตำรวจไซเบอร์ขยายผล 2 เว็บพนันรายใหญ่ เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 1,400 ล้าน จับเพิ่มอีก 5 บัญชีม้า เร่งขอออกหมายจับเพิ่มอีกเป็นขบวน

สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้นำตำรวจไซเบอร์แถลงเปิดปฏิบัติการ “SHUTDOWN EURO BET” กวาดล้างเครือข่าย 2 เว็บพนันฟุตบอลรายใหญ่ที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 1,400 ล้านบาท โดยได้ออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ทั้งขบวนการ จำนวน 64 ราย และสามารถติดตามจับกุมตัวได้จำนวนหนึ่งแล้วนั้น

ต่อมา พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังลงพื้นที่ติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีอย่างไม่ลดละ โดยให้สืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าผู้ต้องหา อยู่พื้นที่ใดในประเทศ ให้ประสานกำลังในพื้นที่นำตัวมาดำเนินคดีทุกราย

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.3 ได้สืบทราบว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีกบดานอยู่ในพื้นที่ ต.หน้าพระลาน
อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จึงได้ประสาน สภ.หน้าพระลาน ร่วมติดตามจับกุมจนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้เพิ่มอีกถึง 5 ราย ได้แก่ นายประณัยฯ อายุ 20 ปี, นายอัศวินฯ อายุ 50 ปี, นายชัยรัตน์ฯ อายุ 55 ปี น.ส.ขันหมากฯ อายุ 56 ปี และ นางเล็กฯ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้หมุนเวียนกระแสเงินจากเว็บพนัน เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเคยรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร โดยได้รับค่าจ้าง จำนวน 2,000 บาท

พ.ต.อ.อภิรักษ์ฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ บช.สอท. เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปรามจับกุมการลักลอบเล่นพนันออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยูโร 2024 ซึ่งทางด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ได้กำชับสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 ดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจากปฏิบัติการ SHUTDOWN EURO BET ซึ่งพบว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนมากที่สุดถึงกว่า 1,400 ล้านบาท โดยขณะนี้มีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวไปแล้วหลายราย และ บก.สอท.3 ยังคงมีการขอออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวเพิ่มเติมอีกหลายราย และอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือทั้งขบวนการมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน หากมีผู้ชักชวนหรือว่าจ้างให้เปิดบัญชี ขอให้ปฏิเสธทันที ไม่ควรเห็นแก่เงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อย เพราะหากบัญชีของท่านถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เจ้าของบัญชีจะต้องถูกดำเนินคดีทุกราย ในหลายความผิด เช่น ผู้ใดรับจ้างเปิดบัญชี หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับโอนเงิน หรือรับชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ได้มา โดยการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ อาจมีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และอาจมีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน อีกด้วย ซึ่งมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ