ศรีสะเกษ ชาวบ้านโต้เพจดัง ไลฟ์สด กล่าวหาอมเงินวัด

จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กชื่อดังเพจหนึ่ง ได้โพสต์คลิปภาพไลฟ์สด พร้อมข้อความระบุว่า “เงินวัดก็ต้องเข้าบัญชีวัด ไม่ใช่เข้าบัญชีส่วนตัวนะคะ เงินผ้าป่าไม่ใช่เอาเข้าบัญชีตัวเอง แล้วให้พระมาเบิกจ่ายกับโยม” หลังโพสต์ข้อความได้ไม่นานได้มีชาวเน็ตแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานาเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ไปพบกับ นางอุบล สังฆพรม อายุ 48 ปี ชาว ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนหน้านี้วัดดังกล่าว ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการวัด อย่างเป็นทางการ ทางผู้นำชุมชนและชาวบ้าน จึงได้มีการหารือกันและลงความเห็นให้คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 13 คน เข้าไปบริหารจัดการบัญชีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินพัฒนา ซ่อมแซมวัด ตั้งแต่เจ้าอาวาสรูปก่อน โดยมีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างเป็นระบบทุกขั้นตอน สามารถตรวจสอบได้ พร้อมประกาศให้ชาวบ้านทุกคนรับทราบมาโดยตลอด

หลังมีการแชร์คลิปภาพลงในโซเชียลแล้ว ส่งผลทำให้ตนพร้อมครอบครับได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ตนจึงต้องออกมาชี้แจ้งเพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง ที่ถูกกล่าวหาว่าอมเงินวัด โดยที่ไม่สอบถามหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงกันก่อนเลย โดยเฉพาะบางคน คอมเม้นด่ายันบรรพบุรุษ สาปแช่งเรา ซึ่งครอบครัวเราไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียอย่างที่ถูกกล่าวหาอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย เสียใจมากๆ อยากให้เกิดความยุติธรรม และขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตนและครอบครัว เพราะเราไม่ได้กระทำผิดอะไร รับไม่ไหวจริงๆ

ด้าน น.ส.รัชนี ธรรมนิยม อายุ 48 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นวันอาสาฬหบูชา เข้าพรรษา ก็จะมีชาวบ้านนำต้นเงินต้นเทียนมาแห่รวมกัน และมีปัจจัยมาถวายด้วย รวม 4 หมู่บ้าน และนำปัจจัยมารวมกันแล้วนับยอดเงินและบอกกรรมการ หลังหักยอดเงินถวายพระเสร็จแล้ว ก็มีการประกาศแจ้งให้ชาวบ้านที่มาทำบุญทราบว่า ยอดเงินส่วนนี้ถวายพระ ยอดเงินส่วนนี้จะเก็บไว้ค่าไฟวัด จากนั้นจะให้คณะกรรมการนำเงินจำนวนที่เหลือไปเก็บไว้ หลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญ ทางคระกรรมการก็ได้มีการนับจำนวนเงินทบทวนอีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง

ขณะนั้นได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถ่ายคลิปไลฟ์สด พร้อมพูดจาทำนองว่า คณะกรรมการเบียดบังเอาเงินวัด พร้อมกับจะแย่งเอาเงินไป บอกว่าจะเอาไปถวายพระ และพูดว่า “ทำไมต้องเอามาให้กรรมการเก็บ เงินถวายพระก็ต้องให้พระเก็บ พระจะใช้อะไรก็ไม่ได้ใช้” ตนจึงตกใจพร้อมกับยืนงง ที่มากล่าวหาว่าเราเบียดบังเงินพระ ซึ่งเอกสารทุกอย่างก็มีชัดเจน และที่บอกว่าไม่เคยเห็นใบเสร็จรับเงินบิลจ่ายค่าไฟวัด ตนยืนยันว่ามีหลักฐานทุกอย่าง ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน และถ้ากรรมการไม่จ่ายค่าไฟ ป่านนี้วัดคงถูกตัดน้ำตัดไฟไปนานแล้ว จึงเกิดความไม่สบายใจ น้อยใจ ที่เราทำดีมาโดยตลอด ทำไมต้องโดยประณามกันแบบนี้ ทั้งๆที่ สถานที่สร้างวัดก็เป็นที่ดินของ คุณปู่ ต้นตระกูลตน ที่บริจาคที่ดิน จำนวน 22 ไร่ 2 งาน ให้สร้างวัด และเราก็ไปทำงานเป็นจิตอาสาช่วยงานวัดมาโดยตลอดทั้งชีวิต

จึงอยากออกมาชี้แจงและเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว ให้แก่พ่อ ซึ่งอายุมากว่า 80 ปี ต้องมานั่งเสียใจ จนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องมาเสียความนับถือ เงินที่เก็บไว้ในส่วนนี้ก็ไม่ได้มากมายอะไร และเพื่อความสบายใจของคนที่กล่าวหา ตนจึงได้นำเงินในส่วนที่เหลือจำนวนไม่กี่พันบาท ส่งมอบให้กับเจ้าอาวาสเรียบร้อยแล้ว และเอกสารทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้

จากนั้น น.ส.รัชนี ธรรมนิยม อายุ 48 ปี และ นางอุบล สังฆพรม อายุ 48 ปี พร้อมด้วย ทนายความ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อภิวัฒน์ เกษร พนักงานสอบสวน สภ.วังหิน ให้ดำเนินคดีกับเพจดัง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด ทั้งคนที่โพสต์และคนที่คอมเม้นแสดงความคิดเห็นผ่านคลิปไลฟ์สดในเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ในทำนองใส่ความกล่าวหาว่าเบียดบังเอาเงินบริจาคของวัด ซึ่งตามคลิปปรากฏตัว นางอุบล และน.ส.รัชนี อยู่ในคลิป จากนั้นได้มีบุคคลจำนวนหลายคน เข้ามาคอมเม้นแสดงความคิดเห็นใส่ความว่า เป็นคนเบียดบังเอาเงินวัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกว่าคดีถึงที่สุด.

ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ จ.ศรีสะเกษ