ตำรวจบุกจับหนุ่มพ่อเล้า พาสาว 16 ค้ามนุษย์คาโรงแรมดัง

เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 1 ส.ค. พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น.พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล,พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.ดส. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสมมาตร อายุ 30 ปี จับกุมได้ที่ห้อง 4403 ชั้น 4 โรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงค์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2567 เวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น.ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าได้มีการลักลอบนำเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี มาแสวงหาประโยชน์ทางเพศโดยการให้บริการนั่งดื่มเอนเตอร์เทน โดยการล่อซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กแมสเซนเจอร์ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ฯ โดยสายลับนั้นสามารถ ติดต่อล่อซื้อบริการได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลและจึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการ วางแผนล่อซื้อจับกุมในครั้งนี้โดยการให้สายลับทำการล่อซื้อผ่านทางแอป พลิเคชั่นเฟสบุ๊คแมสเซนเจอร์ โดยสายลับจำนวน 3 นาย ทำการล่อซื้อบริการนั่งดื่มเอนเตอร์เทนซึ่งได้นัดหมายกับโมเดลลิ่งว่าให้พา หญิงสาว อายุ 16 ปี จำนวน 2 คนมาที่ ห้อง 4403 ชั้น 4 โรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ซึ่งเวลาประมาณ 19.30 น. สายลับได้ทำการเปิดห้องดังกล่าว

ต่อมาเวลาประมาณ 19.50 น. นายสมมาตรผู้ต้องหา ได้เดินทางมาพร้อมกับ น.ส. เอ นามสมุติ และ น.ส.บี นามสมมุติ เมื่อมาถึง 4403 แล้ว ได้ทวงเงินค่าบริการเด็กทั้ง 2 พร้อมค่าบริการของตนเองจากสายลับ สายลับจึงได้ทำการส่งมอบเงินสดที่ได้ทำการลงบันทึกประจำวัน ล่อซื้อไว้ก่อนนี้แล้วตามบันทึกประจำวันของ กก.ดส.บช.น.ข้อที่ 5 ลงวันที่ 31 ก.ค. 2567 เวลา 19.15 น. เป็นจำนวนเงิน 4,500 บาท เพื่อเป็นค่าบริการของ น.ส.สุวรรณกัลป์ยาฯ กับ น.ส.ธิดารัตน์ฯ ในราคาคนละ 1,500 บาท และเป็นค่าธุระจัดหาจำนวนเงิน 500 บาท รวมถึงบริการของนายสมมาตรฯเองจำนวน 1,000 บาท

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค.เวลาประมาณ 00.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ได้เข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ฯ และจับกุมได้เข้าทำการตรวจค้นภายในห้องดังกล่าวพบ นายสมมาตรผู้ต้องหา และช่วยเหลือ น.ส.เอ กับ น.ส.บี ซึ่งกำลังนั่งดื่มและกอดจูบลูบคลำอยู่กับสายลับ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้แก่ นายสมมาตรฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว ผลการตรวจค้นพบธนบัตร ที่ใช้ในการล่อซื้อ จำนวน 4,500 บาท อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ของผู้ต้องหา จากการสอบถาม นายสมมาตรฯ ได้ให้การกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเป็นคนรับงานเอ็นเตอร์เทนมาจากลูกค้าโดยตกลง กับลูกค้าไว้ว่าจะพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปให้บริการเอ็นเตอร์เทนพร้อมกับตนเองรวม 3 คน โดยคิดค่าบริการของเด็กคนละ 1,500 บาท ค่าบริการของตนจำนวน 1,000 บาท และค่าจัดหา 500 บาท จากนั้นจึงได้ติดต่อชักชวน น.ส.เอ และ น.ส.ธิดารัตน์ สุขุมนัย เพื่อมารับงานเอ็นเตอร์เทน ในอัตราค่าบริการดังกล่าวข้างต้น ที่ตกลงไว้กับสายลับ ซึ่งนายสมมาตรฯ ผู้ต้องหาจะได้ประโยชน์จากเงินจากการเป็นธุระจัดหาจำนวน 500 บาท ซึ่งจากการสอบถาม นายสมมาตรฯ ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตนเองพบประวัติการสนทนาตกลงเป็นธุระจัดหากับสายลับ และประวัติการสนทนาในการชักชวนเหยื่อ ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีและเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์มาบริการลูกค้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งแก่ นายสมมาตรฯ ว่าต้องถูกจับ และได้แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบ จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลอายุเกินกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึง 18 ปี” จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป