ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตรวจยึดยาเสพติดกว่า 89,000 เม็ด ขณะลำเลียงส่งลูกค้า
1 min readกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.
ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.จรุงศักดิ์ จำรูญ ผกก.4 บก.ทล., พ.ต.ท.ศิวกริช ดิษย์บุญรัตน์ รอง ผกก.4 บก.ทล. และ พ.ต.ท.มนตรี รักชาติ
รอง ผกก.4 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.เอกสิทธิ์ อินทร์โท่โล่ รอง สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล., ร.ต.ท.มานัตร์ เจริญ, ร.ต.ท.สมเกียรติ นราศรี รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา
1.หลบหนี
ซึ่งต้องหาว่า ร่วมกันต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1
(เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจาย
ในกลุ่มประชาชน
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 60,000 เม็ด
2.กระเป๋าสะพายสีขาว ลวดลายการ์ตูนหมี
สถานที่จับกุม สถานที่ตรวจยึด หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ม.14 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
2.นายจิรายุทธฯ อายุ 49 ปี
ซึ่งต้องหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 24,000 เม็ด
2.รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค สีเทา
3.โทรศัพท์มือถือ ออปโป้ สีม่วงขาว สถานที่จับกุม ริมทางหลวงหมายเลข 2038 กม.1 ต.โนนทัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้นำรถวิทยุ 4211 ออกกวดขันตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ และได้หยุดสังเกตการณ์อยู่บริเวณถนนมะลิวัลย์ ทล.12 กม.512-513 ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ขณะนั้นได้พบรถยนต์คันก่อเหตุ เป็นรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ มีคนอยู่ภายในรถคันดังกล่าว จำนวน 2 คน (จดจำใบหน้าไม่ได้และทราบภายหลัง) ขับขี่มุ่งหน้าไปทาง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงได้ ขับขี่ติดตามรถยนต์คันก่อเหตุได้ขับขี่ไปตามถนนมะลิวัลย์ – ตรงผ่านแยกบ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ขณะนั้นได้มีรถยนต์ โตโยต้า แคมรี่ สีเข้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับขี่ติดตามและขับขี่ลักษณะกีดขวางขัดขวางไม่ให้รถเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามรถคันก่อเหตุได้ทัน) – เลี้ยวซ้ายถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น – เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม – ตรงผ่านสี่แยก อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม – เลี้ยวซ้ายสี่แยก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ (ขณะนั้นรถยนต์คันโตโยต้า แคมรี่ ที่ขับขี่ติดตามได้ขับแซงขึ้นมาและขับปิดกั้นไม่ให้รถวิทยุไล่ติดตามรถคันก่อเหตุได้ทัน) – เลี้ยวซ้ายแยกเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ (ขณะนั้นรถยนต์คันโตโยต้า แคมรี่ ที่ขับขี่ติดตามได้ขับรถขวางไม่ให้รถวิทยุเลี้ยวซ้ายตามรถคันก่อเหตุ ทำให้รถคันโตโยต้า แคมรี่ คันดังกล่าว เสียหลักเฉี่ยวชนเกาะกลางถนนทำให้รถคันดังกล่าวได้รับความเสียหาย) ต่อมาเมื่อขับติดตามรถยนต์คันก่อเหตุมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์คันก่อเหตุได้โยนสิ่งของบางอย่างทิ้งข้างถนน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เห็นว่าน้ำมันเชื้อเพลิงรถวิทยุ 4211 ใกล้หมด จึงได้หยุดติดตามและได้ลงไปตรวจสอบสิ่งของที่รถยนต์
คันดังกล่าวโยนทิ้ง พบว่า เป็นกระเป๋าสะพายสีขาว ภายในมียาบ้า จำนวน 10 ก้อน รวมเป็นยาบ้าประมาณ 60,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ จึงได้ตรวจยึดกระเป๋าสะพายฯ และยาบ้าดังกล่าว จัดทำบันทึกตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นากุง เพื่อเป็นพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป
และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้นำรถวิทวิทยุ 4208 ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ และได้หยุดสังเกตการณ์อยู่บริเวณถนนมะลิวัลย์ ทล.12 กม.512-513 ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ขณะนั้นได้พบรถยนต์คันก่อเหตุ เป็นรถยนต์เก๋ง ฮอนต้า ชีวิค สีเทา ร้อยเอ็ด ขับขี่มาตามถนนมะลิวัลย์มุ่งหน้า อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ลักษณะมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบพบว่า ภายในรถยนต์คันดังกล่าวมี นายจิรายุทธฯ (ทราบภายหลัง) เป็นผู้ขับขี่มาคนเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่และเชิญลง จากรถ นายจิรายุทธฯ ได้เร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนีมุ่งหน้า อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถไล่ติดตามเมื่อถึงสามแยกไป อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น นายจิรายุทธฯ ได้ขับรถเลี้ยวขวาไปตาม ทล.2038 มุ่งหน้า อ.ภูเวียงจ.ขอนแก่น เมื่อขับไปถึงที่เกิดเหตุ นายจิรายุทธฯ ได้ลดความเร็วจนรถเกือบหยุดแล้วได้เปิดประตู ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีทิศทางฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่จะจอดรถและจากนั้นรถคันดังกล่าวได้เสียหลักลงข้างทาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วิ่งไล่ติดตาม แต่เมื่อติดตามถึงตัวนายจิรายุทธฯ นายจิรายุทธฯ ได้ดึงกระเป๋าสะพายของกลางไว้ แล้วนายจิรายุทธฯ ได้สะบัดดิ้นหลุดแล้ววิ่งหลบหนีไม่สามารถติดตามตัวได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ ชุดจับกุมจึงได้ตรวจค้นรถยนต์คันที่นายจิรายุทธฯ ขับขี่ พบยาบ้า จำนวน 2 ก้อน (ก้อนละ 6,000 เม็ด) วางซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะคนขับ และพบยาบ้าอีกจำนวน 2 ก้อน วางซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะผู้โดยสารข้างคนขับ
และพบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อออบโป้ สีม่วงขาว บริเวณที่วางของระหว่างเบาะคนขับและเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ จากนั้นได้จัดทำบันทึกของกลางพร้อมนำของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ เพื่อเป็นพยานหลักฐานดำเนินคดีกับ นายจิรายุทธฯ ให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป