ผู้เสียหายร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกแท็กซี่ทำร้ายร่างกาย หลังอาเจียนใส่ถุงบนรถ
1 min readครอบครัวหญิงผู้เสียหาย ร้องเพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ หลังถูกคนขับแท็กซี่ใช้อาวุธมีดไล่ทำร้าย ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ หลังอาเจียนบนใส่ถุงพลาสติกบนรถ ตกลงเรื่องค่าเสียหายกันไม่ลงตัว
เพื่อนและครอบครัวผู้เสียหายนำคลิปวีดีโอนี้ถูกบันทึกเอาไว้ได้ในวันเกิดเหตุเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา มาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เป็นภาพวิดีโอขณะคนขับรถแท็กซี่ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง หลังไม่พอใจผู้โดยสารอาเจียนใส่ถุงบนรถแท็กซี่ เนื่องจากมึนเมาสุรา และไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องค่าเสียหายกันได้
นางสาว อิสราภรณ์ ทองอุทัยศิริสกุล เพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ และผู้ได้รับบาดเจ็บ ย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก่อนจะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่าน แอปพลิเคชั่น ให้มารับเพื่อจะกลับที่พักย่านลาดพร้าว แต่เมื่อแท็กซี่มารับคนขับมีอาการไม่พอใจที่กลุ่มของตัวเองมีอาการมึนเมาได้พูดต่อว่าตลอดทาง แต่ขณะนั่งรถเพื่อนมีอาการอยากจะอาเจียน คนขับจอดข้างทางและเปิดประตูอาเจียนลงพื้นถนน 1 ครั้ง และได้อาเจียนใส่ถุง บนรถแท็กซี่อีก 1 ครั้ง โดยคนขับยื่นถุงพลาสติกให้ โดยให้เหตุผลว่าเสียเวลาในการจอดรถ และพยานามเรียกเอาเงิน 500 บาท แต่ผู้เสียหายได้ขอต่อรองเหลือ 200 บาทก่อนมอบเงินให้ และปิดประตูรถเสียงดัง ยิ่งทำให้คนขับแท็กซี่ไม่พอใจจึงได้ใช้อาวุธมีดลงมาทำร้ายบริเวณศีรษะจนได้รับบาดเจ็บหนัก
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อยากใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการเลือดคั่งในสมอง กะโหลกศีรษะร้าว เย็บ 20 กว่าเข็ม รวมถึงนิ้วมือทั้งสองข้างหัก ทางครอบครัวจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัยไว้แล้ว เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งกับครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บว่าได้ติดต่อผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบปากคำ ส่วนบริษัทที่กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บเรียกผ่านแอบพลิเคชั่น ได้แจ้งกับทางผู้เสียหายว่าได้ระงับบัญชีคนขับแท็กซี่ดังกล่าวแล้ว และพยายามติดต่อให้เข้ามาชี้แจงแต่คนขับแท็กซี่ที่ก่อเหตุไม่ให้ความร่วมมือ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่าพฤติกรรมของคนขับแท็กซี่ดังกล่าวถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกถอนใบอนุญาตการขับขี่รถสาธารณะ และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อเที่ยงที่ผ่านมา เพจสายไหมต้องรอดตำรวจนครบาลสุทธิสาร พร้อมครอบครัวและเพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บลงพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณซอย 42/2 ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อดูในเรื่องของพยานหลักฐานและพฤติกรรมการก่อเหตุ เนื่องจากก่อนหน้านี้ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ซึ่งอยู่นอกเขตรับผิดชอบ
ก่อนจะเดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร เพื่อให้ปากคำใหม่อีกครั้ง เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ได้ประสานกับทางพนักงานสอบสวนสนโชคชัยเพื่อนำหลักฐานการแจ้งความ และพยานหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบในสำนวนคดี พร้อมเรื่องติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นรู้ตัวผู้ก่อเหตุ และทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำ หากไม่มาพบ ตำรวจจะออกหมายเรียกและออกมาจับตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ เข้าข่ายกระทำความผิดฐานพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนความผิดฐานพยายามฆ่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานรวมถึงใบรับรองแพทย์ เพื่อนำมาพิจารณาอีกครั้งว่าพฤติกรรมเข้าข่ายหรือไม่