ประมงตรวจเข้มฟาร์มเลี้ยงจระเข้หลังพบลูกหลานพญาชาละวันมีพัฒนาการต่อตัวปีนรั้วจะหนีออกจากบ่อเลี้ยง
1 min read
ประมงพิจิตรพาทีมงานลงพื้นที่ตรวจเข้มเฝ้าระวังช่วงฤดูน้ำหลากป้องกันจระเข้ที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงริมคลองใกล้แม่น้ำไม่ให้หลุดออกมาจากบ่อเลี้ยง เหตุมีข้อมูลพบว่าลูกหลานพญาชาละวันมีพัฒนาการ การนอนเทินตัวเรียงกันเป็นชั้นๆ แล้วพยายามจะปีนหนีออกจากบ่อ จึงทำให้แต่ละฟาร์มที่เลี้ยงจระเข้ต้องเพิ่มมาตรการ กรง รั้ว เพื่อเป็นแนวป้องกัน
วันที่ 15 สิงหาคม 2567 นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร, นายพงษ์พันธ์ สุนทรวิภาต ประมงจังหวัดพิจิตร , นายพิเชษฐ สุพิกุลพงศ์ ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่สุ่มตรวจฟาร์มเลี้ยงจระเข้ของผู้ประกอบการ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งมี 11 ฟาร์ม อยู่ในเขต อ.โพทะเล อ.เมืองพิจิตร อ.สามง่าม อ.ทับคล้อ มีจระเข้รวมแล้วทั้งสิ้น 1,438 ตัว เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูน้ำหลากจึงหวั่นเกรงว่าถ้าไม่วางมาตรการที่รัดกุม จระเข้อาจจะหลุดออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ได้ ซึ่งจากการลงพื้นที่สุ่มตรวจพบว่าฟาร์มจระเข้ทุกแห่งที่ลงตรวจมีการก่อสร้างเป็นบ่อซีเมนต์-กำแพงสูงกว่า 2 เมตร และเทคอนกรีตฝังลึกลงใต้ดินเป็นแนวกำแพงกั้นลงไปอีก 2-3 เมตร เพื่อไม่ให้จระเข้ขุดดินมุดหนีออกจากบ่อได้ รวมถึงด้านบนกำแพงปูนก็มีการติดตาข่ายเหล็กในลักษณะเอียง 45 องศา เข้าไปในบ่อ เพื่อป้องกันจระเข้กระโดดหรือปีนป่ายออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ ซึ่งทุกแห่งที่ตรวจล้วนมีมาตรฐานเดียวกัน
ในส่วนของ นายวุฒิพงษ์ กล้วยหอมทอง “กำนันกุ้ง” กำนันตำบลท่าขมิ้น อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงจระเข้ไว้ 37 ตัว เล่าว่าที่บ่อเลี้ยงจระเข้ของตนมีการติดกล้องวงจรปิดเฝ้าดูจระเข้ที่เลี้ยงไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเคยพบว่าจระเข้ในปัจจุบันมีการพัฒนาการในการที่จะหนีออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ ด้วยการนอนเทินตัวเรียงกันเป็นชั้นๆ แล้วพยายามจะปีนหนีออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ แต่ทำไม่สำเร็จ เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการมีการสร้างบ่อเลี้ยง กรง รั้ว กันอย่างแน่นหนา และจากการที่มีประสบการณ์ การทำฟาร์มจระเข้มานานนับสิบปีก็ไม่เคยพบเจอว่าจระเข้หนีรอดออกกรงเลี้ยงไปได้ แต่ที่ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบเห็นพัฒนาการ การต่อตัวของจระเข้ จึงทำให้ต้องมีมาตรการเข้มในการควบคุมดูแลที่เลี้ยงไว้ดังกล่าว
นอกจากนี้ นายพงษ์พันธ์ สุนทรวิภาต ประมงจังหวัดพิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จระเข้เป็นสัตว์คุ้มครอง ผู้ใดจะมีไว้ในครอบครองหรือจะเลี้ยงต้องขออนุญาต รวมถึงถ้ามีแล้วเลี้ยงไม่ไหวจะนำมาปล่อยทิ้งในแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ได้ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็ได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการว่าถ้าเลี้ยงไม่ไหวก็ห้ามขายให้ชาวบ้านในราคาถูกๆ หรือเอาไปปล่อยแบบปล่อยนกปล่อยปลาไม่ได้เด็ดขาด หากมีปัญหา โทร.ปรึกษาได้ที่ สนง.ประมงจังหวัดพิจิตร 056-611126 ในวันและเวลาราชการ
ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร