คนร้ายสารภาพสิ้นชิงเงินร้านค้าซื้อสมาร์ทโฟนหวังลงทะเบียนรับเงินดิจิตอลวอลเล็ท
1 min read
อำเภอประโคนชัย//ตำรวจตามรวบหนุ่มวัย 41 ปีฉกกระเป๋าเงินหมอเจ้าของร้านชำได้ทันควัน เจ้าตัวสารภาพสิ้น ได้เงินมากว่า 4,000 ส่วนหนึ่งเอาไปซื้อของใช้ ที่สำคัญเอาไปซื้อโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อโหลดแอป”ทางรัฐ”หวังรับเงิน 10,000 บาทจากรัฐบาล
วันที่ 18 ก.ย.67 พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายบุญเจริญ ศรีแก้ว อายุ 41ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/1 หมู่ที่ 3 บ้านหนองมะเขือ ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ อดีต รปภ.บริษัทแห่ง ในกรุงเทพฯไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปขโมยกระเป๋าเงินนางจินตนา นุริตานนท์ อายุ 67 ปี อดีตพยาบาลที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และเป็นเจ้าของร้านค้าขายของชำในเขตเทศบาลประโคนชัย
โดยใช้กลวิธีอ้างว่าเติมเงินโทรศัพท์จากตู้เติมเงินหน้าร้านไม่ได้ เพื่อหลอกให้เจ้าของร้านออกมาแล้วเข้าไปฉกเอากระเป๋าเงินซึ่งในนั้นมีเงินสดประมาณ 4-5 พันบาท บัตรประจำตัวประชาชน และล็อตเตอรี่อีกกว่า 10 ใบแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ต่อมาชุดสืบสวน ได้แกะภาพจากกล้องวงจรปิดจรกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือบุญเจริญ ศรีแก้ว ก่อนจะนำกำลังเข้าไปควบคุมตัวที่บ้านพัก เบื้องต้นนายบุญเจริญ ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพวงจรปิดจริง
นายบุญเจริญสารภาพต่อหน้า ผกก.ว่าสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะที่บ้านยากจน ตนเองเคยทำงานเป็น รปภ.อยู่กรุงเทพฯ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเงินไม่พอใช้ จึงย้อนกลับมาอยู่บ้านหวังหาอาชีพใหม่
แต่ปรากฎว่าช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะมีเงินให้กับกลุ่มคนเปราะบางคือคนที่เคยได้บัตรคนจน หรือมีบัตรคนพิการอยู่แล้ว คนละ 10,000 บาทซึ่งในครอบครัวตนจะมีรายได้หลายหมื่นบาท
แต่ขาดอย่างเดียวคือครอบครัวไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ตามที่ได้ยินจากทางข่าวสาร และเกรงว่าอาจจะตกไปอยู่ขบวนสุดท้ายที่รัฐบาลจะโอนให้ในภายหลัง จึงมีความคิดที่อยากจะหาซื้อโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน
ก่อนวางแผนขโมยเอาเงินร้านค้าดังกล่าว หลังได้เงินมาได้เอาเงินส่วนหนึ่งไปซื้อของกิน และที่สำคัญเอาไปซื้อโทรศัพท์ในราคา 3,800 บาทมาเพื่อจะลงทะเบียนให้ครบกระบวนการที่รัฐบาลตั้งเงื่อนไขให้
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาชิงทรัพย์ และจะต้องทำการสอบสวนในเชิงลึกอีกว่าเป็นกระบวนการหรือไม่ ตำรวจยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี