ตำรวจสอบสวนกลางบุกจับโรงงานทุนจีนลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมตรวจยึดของกลางปริมาณมหาศาล

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.วิญญู แจ่มใส ผกก.2 บก.ปทส. และทีมงาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าตรวจค้นโรงงานในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังพบการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายกัวฯ อายุ 55 ปี และนายหลี่ฯ อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ทั้งสองถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 โดยตรวจยึดของกลางในพื้นที่ ได้แก่ กองผลิตภัณฑ์จากการบดย่อยที่ปนเปื้อนโลหะหนักปริมาณประมาณ 0.5 ตัน กองผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนโลหะหนักปริมาณประมาณ 1 ตัน และสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากการแยกที่ปนเปื้อนโลหะหนักปริมาณประมาณ 10 ตัน

การสืบสวนเริ่มต้นจากการที่กรมศุลกากรตรวจยึดและอายัดตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 10 ตู้ น้ำหนักรวม 256 ตัน ซึ่งมีการสำแดงเท็จเกี่ยวกับการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพบว่า บริษัทที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้า และยังเชื่อมโยงกับกลุ่มโรงงานในอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเคยถูกจับกุมและได้รับคำสั่งจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้หยุดดำเนินกิจการ

ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่พบการเคลื่อนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกอายัดไว้ เข้ามาในโรงงานดังกล่าวในพื้นที่ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จึงได้ออกคำสั่งให้โรงงานหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว และเข้าตรวจสอบ พบวัตถุอันตรายจำนวนมากในพื้นที่ โดยนายหลี่ฯ ได้แสดงตัวเป็นผู้จัดการโรงงาน และนายกัวฯ แสดงตัวเป็นผู้จัดการโรงงานเจ้าของพื้นที่ ทั้งสองรับว่าไม่มีการขออนุญาตในการครอบครองวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ลักลอบนำเข้ามานี้ประกอบด้วยโลหะหนักหลายชนิด เช่น ตะกั่ว สารหนู และสารอันตรายอื่น ๆ หากไม่มีการจัดการอย่างเหมาะสม อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อาหาร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ในระยะยาว เจ้าหน้าที่จึงอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการทางกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา