เสาร์. ก.พ. 22nd, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ตำรวจบุกช่วยหนุ่มวัย 20 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กักขังเรียกค่าไถ่

1 min read
 พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล  กล่าวว่า 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ได้รับแจ้งจากทางพ่อแม่ของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ได้ถูกอุ้มไปที่ใดที่หนึ่ง ทางพ่อแม่มาขอร้องให้ตำรวจช่วย โดยเล่าว่ามีค่ายมือถือดังโทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย และอ้างว่าน้องผู้เสียหายไปพัวพันกับแก๊งค์ฟอกเงิน ให้ไปแสดงตัวที่ สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ / แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่สะดวกเดินทางไป จึงมีบังคับให้ผู้เสียหายเปิดโรงแรมในพื้นที่วังทองหลาง และวีดิโอคอลกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลากินข้าว โดยมีการหลอกต่อเนื่อง 7 วัน

 นอกจากนั้นยังให้ผู้เสียหายโอนเงิน 3 รอบ รวมกันจำนวน 150,000 บาท โดยในระหว่างนั้น แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ได้ให้ผู้เสียหายคุยกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. และเจ้าหน้าที่ธุรกรรมบัญชี / ซึ่งหลังจากหลอกเด็กจนเงินหมดแล้ว ก็ได้ให้เด็กไปหลอกพ่อแม่ว่าจะนำเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ และใช้เป็นเงินค้ำประกัน 500,000 บาท ซึ่งทางด้านของครอบครัวผู้เสียหาย ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของลูกชาย หลังจากนั้นน้องผู้เสียหายก็โอนต่อไปยังแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์

 หลังจากหมดมุขคำโกหกในเรื่องของการเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ก็ได้ให้ผู้เสียหายหลอกพ่อแม่ว่าโดนอุ้ม และจะโดนทำร้ายร่างกาย รวมถึงจะถูกนำไปขายที่ต่างประเทศ พร้อมทั้งข่มขู่พ่อแม่ของผู้เสียหายว่า ถ้าไม่อยากให้ลูกโดนนำไปขายต่างประเทศ ให้โอนเงินมา 150,000 บาท แต่ทางด้านพ่อแม่ของผู้เสียหายกลับรู้สึกแปลกใจ จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.วังทองหลาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เริ่มปฏิบัติการในการค้นหาผู้เสียหายทันที ซึ่งในช่วงแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นหาก็พยายามเจาะไปตามโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่วังทองหลาง เนื่องจากว่าผู้เสียหายไม่ยอมบอกพิกัดที่อยู่

 ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงห้องพักที่ผู้เสียหายพักอยู่นั้น เจ้าตัวก็ยังคงพูดคุยอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตลอดเวลา แล้วตอนที่ตำรวจไปถึงตัวของผู้เสียหายเองก็ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว 

 นอกจากนั้น ทางด้านของ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ยังฝากบอกอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการวีดีโอคอลมาพูดคุยกับผู้เสียหาย ถ้าหากเกิดเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นให้คิดเอาไว้ก่อนว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน 

 ด้านนาย ณัฐวรรธน์ ภูสรัญญ์ริช พ่อของผู้เสียหายเปิดเผยว่า เริ่มแรกลูกชายได้บอกกับตนว่า ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ โดยมีการอ้างชื่ออาจารย์ซึ่งดูแลเรื่องโครงการทุนของมหาวิทยาลัย ตนจีงได้ทดลองเสิร์ชข้อมูลในอินเตอร์เน็ตพบว่ามีชื่ออาจารย์คนดังกล่าวจริง แต่ไม่มีชื่อโครงการทุนดังกล่าว ประกอบกับเมื่อสอบถามข้อมูลอย่างละเอียด เกี่ยวกับที่พักและ สถานที่เรียน ลูกชายพูดจาวกไปวนมา จึงทำให้เริ่มเอะใจ แต่ก็ไ

ด้เตือนลูกว่าไม่มีหลักสูตรดังกล่าวอยู่จริง แต่ตนก็ได้โอนเงินให้ลูกเพราะรักและเชื่อใจ / จากนั้นตนได้ไปสอบถามข้อมูลจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งตนเคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยนี้จึงมีคอนเนคชั่นอยู่บ้าง ทางอาจารย์ตอบกลับมาว่า กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มีการเอาชื่ออาจารย์ไปแอบอ้าง โดยที่ตัวเจ้าของชื่อที่แอบอ้างไม่ทราบเรื่องดังกล่าวด้วย

 กระทั่งครั้งล่าสุด กลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหาตัวเอง พร้อมกับส่งรูปภาพ รถจักรยานยนต์ล้ม เพื่อสร้างสถานการณ์ข่มขู่ และ ให้ตนโอนเงินไป 150,000 บาท เพื่อแลกกับความปลอดภัยของลูก โดยอ้างว่าลูกของตนเป็นหนี้การพนัน รวมถึงยังข่มขู่ว่าขณะนี้ได้พาตัวลูกชายของตัวเองไปที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วจะเอาตัวลูกชายไปขาย ตนจึงตัดสินใจเดินทางจากจังหวัดขอนแก่นมาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งตัวเองและภรรยาได้โอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพรวมทั้งหมด เป็นจำนวนเงิน 520,000 บาท  

 โดยหลังตำรวจได้ช่วยเหลือลูกชายตัวเองออกมา ทางแม่ของผู้เสียหายได้โผเข้ากอดลูก ขณะเดียวกันตนก็ได้มีการพูดคุยกับลูกพบว่าสภาพจิตใจขณะนี้ยังอยู่ในภาวะกังวล หวาดกลัว และหวาดระแวง ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้มีการตำหนิ แต่ได้มีการปลอบใจและขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน


Loading…

ใส่ความเห็น

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.