พุธ. มี.ค. 19th, 2025

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ทลายแก๊งยิง นศ.อุเทนถวาย! จับครบ 10 คน วางแผนล่าเป้าหมายก่อนวันบลูเดย์ – มือปืนโชว์รอยฟันเฟือง 4 อัน

1 min read



พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ได้แถลงความคืบหน้าการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นแก๊งยิง นศ.อุเทนถวาย ว่า เบื้องต้นตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบแล้วทั้ง 10 คน และได้นำตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว / เบื้องต้นทุกคนให้การภาคเสธ แต่มั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดได้แน่นอน เพราะก่อนการจับกุม ได้มีการแจ้งให้ชุดจับกุมทุกนายรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน หนาแน่น โดยพยานทุกชิ้นจะต้องรัดกุมและสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน เมื่อขึ้นสู้ศาลทุกคนต้องถูกลงโทษ ศาลไม่ยกฟ้อง และอีกอย่างมีหลักฐานชัดเจนว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการเตรียมทุกอย่างตั้งแต่ก่อนก่อเหตุจนถึงหลังก่อเหตุ นอกจากนี้ยังมีการวางแผนนัดแนะคำให้การกับตำรวจเมื่อถูกจับกุมว่าจะต้องให้การอย่างไรบ้าง ในเคสนี้จะมีการขยายผลไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งผู้ร่วมขบวนการ ผู้รู้เห็น และให้การสนับสนุน ถ้ามีพยานหลักฐานถึงผู้ใดก็จะดำเนินการทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังมี ผู้ต้องหาบางคนเคยมีประวัติอาชญากรรม เคยถูกดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เคยโดนดำเนินคดีเกี่ยวกับพ.ร.บ.อาวุธปืน

จากการเข้าตรวจค้น 19 จุดทั่วกรุงเทพฯและจังหวัดสมุทรปราการ พบว่ามีเซฟเฮ้าส์ 2 ที่ ที่ซอยนวมินทร์ 26 และซอยพัฒนาการ 50 พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ 4 คัน , รถยนต์ 3 คัน , เสื้อผ้า , รองเท้า , หมวกกันน็อคที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และยังพบเรื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง

พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้เปิดเผยถึงแผนประทุษกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า ได้มีการตระเตรียมการกันล่วงหน้าประมาณ 15 วัน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้จะมีงานวันบลูเดย์ของอุเทนถวาย

โดยในช่วงวันที่ 27-28 มกราคม 2568 พบว่า มีผู้ก่อเหตุได้ใช้รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่บริเวณละแวกจุดเกิดเหตุ / มีคนชี้เป้าอยู่ตรงมาบุญครอง คนยิงอยู่ใต้สะพานหัวช้าง / จนกระทั่งเวลาตี 1 ก็มีนักศึกษาอุเทนถวาย 2 ราย ขี่รถไปทางสะพานหัวช้าง ผู้ก่อเหตุที่ซุ่มรออยู่จึงออกมาทันที จึงเชื่อว่ามีผู้ที่ชี้เป้าให้อยู่บริเวณซอยจุฬา 12 / โดยผู้ก่อเหตุได้ขี่รถตามเป้าหมายไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ก่อเหตุไม่สำเร็จเพราะเป้าหมายรู้ตัว ผู้ก่อเหตุจึงขี่รถกลับมาเฝ้าหาเป้าหมายรายอื่นต่อไปจนถึงช่วงตี 2 ก่อนแยกย้ายกลับไป

ต่อมา วันที่ 29 มกราคม 2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถวนเวียนหาเป้าหมายในพื้นที่ตั้งแต่ 18.30 น. และมีคนมาชี้เป้าเหมือนเดิม / จนเวลา 22.54 น. พบว่า ผู้ก่อเหตุที่ซุ่มอยู่ตรงสะพานหัวช้างมีการรับโทรศัพท์ เป็นจังหวะเดียวกับที่นักศึกษาอุเทนถวาย 16 คน เดินออกมาจากสถาบัน เมื่อผู้ก่อเหตุวางสายโทรศัพท์ก็ขี่รถออกมาทันที และก่อเหตุยิงตอน 22.55 น.

หลังก่อเหตุแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้รถมาสด้าขับประกบรถมือยิงที่ขี่หลบหนีไปถึงจังหวัดสระบุรี แล้วไปทิ้งรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไว้ ก่อนจะรับมือยิงและคนขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ากรุงเทพฯ จากนั้น ได้เอารถกระบะอีกคัน ขับไปเอารถจักรยานยนต์ที่ทิ้งไว้ที่สระบุรีกลับมาที่กรุงเทพฯ โดยนำไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าก่อนจะสีคนมารับไปอีกที

นอกจากนี้ ยังพบว่า ก่อนก่อเหตุ ได้มีการรวบรวมเงินกันประมาณ 15,000 บาท ไปซื้อรถจักรยานยนต์ที่จะใช้ก่อเหตุ แล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เอารถกระบะไปขนรถจักรยานยนต์ เอาไปจอดไว้ที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วค่อยไปขี่เข้ากรุงเทพฯ มาก่อเหตุ

โดยระหว่างการสอบปากคำ มือปืน ได้เปิดเสื้อโชว์ให้เห็นถึงรอยฟันเฟืองจำนวน 4 อัน อยู่ที่บริเวณหัวไหล่ข้างซ้าย เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์สื่อให้เห็นว่าเป็นนักเรียนช่างกล ซึ่งเป็นประเพณีรับน้องที่ทำกันมารุ่นต่อรุ่น

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.