ท้าให้ตรวจ! พ่อ รมช.ศึกษายันที่ทุกแปลงอยู่นอกเขตอุทยาน
1 min readหลังจาก พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์การประสานการปฏิบัติ(ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัด ปราจีนบุรี นายพงษ์เทพ เจริญเลิศศรัทธา นายช่างรังวัดอาวุโส สำนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองปราจีนบุรี พร้อมสื่อมวลชน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่ในเขตพื้นที่ ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่โฉนดเลขที่ 14578 ชื่อผู้ครอบครอง คือ นางกนกวรรณ ศรีจันทร์งาม หรือ นางสาวกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.กระทรวงศึกษา กำลังดำเนินการรวมแปลง บนเนื้อที่ 15-2-44.3 ไร่ ได้มีการใช้แบคโฮ เข้าไปดำเนินการแผ้วถางและปรับพื้นที่ และเมื่อตรวจสอบหลักเขตพบว่า มีการแผ้วถางและปรับพื้นที่รุกเข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวน 12-1-96 ไร่ อย่างชัดเจน นั้น
วันนี้ (24 ม.ค. 63) นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พ่อ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงที่มีข่าวว่าตนเองและลูกสาวบุกรุกอุทยาแงชิตเขาใหญ่ นั้น นายสุนทร ได้กล่าวว่า ผมขอเรียนว่า ความจริงผมเป็นคนที่ให้ไปพัฒนา โดย ลูกสาวคือรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่อง เพื่ออยากให้ที่มีคุณค่า มีราคาขึ้นมา มีสภาพที่สวยงาม จึงสั่งลูกน้องเพื่อให้ไปพัฒนา ห้ามลุกล้ำเกินที่อุทยานหรือที่หลวงทั้งหมด อยากให้ขบวนการของทางราชการเข้ามาตรวจสอบให้ถูกต้องว่า ถูกต้องหรือไม่ ก็ว่าไปตามหลักฐาน ทุกสิ่งทุกอย่างผมรักธรรมชาติ รักความสวยงาม อยากให้บ้านเมืองเจริญ ให้ทุกที่มีราคา ไม่ว่าจะของผมหรือคนอื่นก็ตาม อยากให้จังหวัดปราจีนบุรี เป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีต้นไม้สวยงาม ข่าวที่ออกว่า เจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับผม ให้ประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ ผมบอกว่าไม่มีแน่นอน ผมไม่เคยให้ผลประโยชน์เจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ไม่เคยมาให้ความร่วมมือกับผม ก็ทำไปตามกระบวนการของการออกหลักฐาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพูดเป็นความจริง ไม่มีใครเกี่ยวข้อง ทำตามเหตุผลและความถูกต้อง ขอให้มาตรวจสอบ
พ.อ.พงษ์เพ็ชร เกษสุภะ กล่าวว่า วันนี้บูรณาการทุกหน่วยงาน กอ.รมน. อุทยาน เจ้าหน้าที่ที่ดิน ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ในแปลงโฉนดที่ดินเพิ่มอีก 2แปลง เนื่องจากวันที่ 17 ม.ค.เราตรวจพบและเจ้าของเอาเอกสารสิทธิ์มาแสดง มีแค่ 3 แปลง แต่พื้นที่ที่บุกรุกมีมากกว่านั้น พื้นที่เปิดป่าใหม่มีมากกว่านั้น วันนี้มาตรวจก็พบว่าทั้ง 2 แปลง มีโฉนดที่ดินเป็นชื่อตามที่เป็นข่าว ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน จากการตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียดอีกครั้ง พบว่ามีการเปิดป่าใหม่ออกนอกโฉนดไปอีก อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าพื้นที่เท่าไร แต่โฉนด 2 แปลงนี้ มีพื้นที่รวม 15 ไร่ 2 งาน 44 ตารางวา แต่ส่วนที่ทำเกินอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และมีการบุกรุกปิดร่องน้ำด้วย พื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาก็มีการตัดภูเขาด้วย สำหรับการดำเนินการตรวจสอบในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากปัญหาในการออกโฉนดเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นมรดกโลก เป็นปัญหามานานแล้ว ไม่ใช่เฉพาะจุดที่ตำบลเนินหอม ฝั่งปราจีนบุรี ที่เดียว
พื้นที่บริเวณโดยรอบเขาใหญ่ ไม่ว่าจะฝั่งทางปากช่องก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ในการขยายผลในการตรวจสอบครั้งนี้เรา จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของ กอ.รมน.ก็ได้มีการประสานให้ กอ.รมน.จังหวัดปราจีนบุรี ตรวจสอบ นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐหรือ กปร.จังหวัด ในส่วนของพื้นที่อื่น ทาง สปป.4 กอ.รมน.จะประสานให้จังหวัดไม่ว่าในส่วนของทางจังหวัดนครราชสีมา หรือทางด้านจังหวัดสระบุรี หรือนครนายก ถ้ามีปัญหาลักษณะนี้ ก็จะให้จังหวัดดำเนินการด้วย ทำควบคู่กันไป ในส่วนของกรมอุทยานก็จะได้ดำเนินการให้แก้ปัญหาในครั้งนี้ทั้งหมด
ซึ่งทางด้านนายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ 1 (ปราจีนบุรี)กล่าวในเรื่องนี้ว่า ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก็ ได้สั่งการให้สำนัก ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ของกรมอุทยานก็ลงพื้นที่มาขอสาระบบที่ดินจากสำนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำการตรวจสบที่มาของเอกสารสิทธิ์ ทั้งหมดทั้งอยู่ชิดแนวเขตและอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าออกมาโดยชอบหรือไม่อย่างไร หลังจากที่เราแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้ก็จะส่งเรื่องให้ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชพิจารณาดำเนินการ อาจจะส่งต่อไปทาง ดีเอสไอ ซึ่งมีเคส กรณีที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ทาง ดีเอสไอ รับเป็นคดีไว้แล้ว ให้ทางกรมพิจารณาดำเนินการ …
ข่าว-ภาพ : ทีมข่าว ปราจีนบุรี