ปราจีนบุรี บัสปรับอากาศผ่าไฟแดงชน จยย.เสียชีวิต3ราย

รถบัสปรับอากาศเห็นไฟเหลืองเตือนไม่ชะลอเปิดไฟขอทาง มาถึงแยกสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นแดง เบรคหม่ทันแล้ว 3หนุ่มน้อยเห็นฝั่งตนเป็นไฟเขียวออกตัวถูกรถบัสชนร่างเละดับกลางถนน2ราย ไปเสียชีวิตที่ รพ.อีก1ราย รวมเป็น3

เมื่อเวลาประมาณ 22.30น.พ.ต.ต.สุวิทย์ ซุยจรูณ พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ได้รับแจ้งจากอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จุดระเบาะว่ามีอุบัติเหตุรถบัสปรับอากาศชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร ระเบาะไผ่ มีผู้เสียชีวิต2รายในที่เกิดเหตุ และผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอีก1ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่ง รพ.ไปแล้วในเบื้องต้น และล่าสุดแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3 ราย หลังจากรับแจ้งพร้อมกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้า กบินทร์บุรี บริเวณ3 แยกสัญญาณไฟจราจร บ้านระเบาะไผ่ ม.5 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ในที่เกิดเหตุบนถนนพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายจำนวน 2 ราย สภาพร่างกายท่อนแหลกเหลว นอนเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองและน่าเวทนากับผู้พบเห็น ทราบชื่อคือนาย นายสุทธิพงษ์ นิลศิริ อายุ 17 บ้านเลขที่ 96 ม.4 ต.กรอกสมบูรณ์ ราย 2 คือ นายฐิติวุฒิ ห้าวจันทึก อายุ17 บ้านเลขที่ 75 ม.4 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และรายที่ 3 คือนายสัญญา ดีจันทร์หอม อายุ19 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ อยู่หมู่บ้านเดียวกัน

ห่างจากจุดผู้เสียชีวิตขึ้นไปประมาณ 20-30เมตร บริเวณริมถนน พบรถบัสปรับอากาศ สีฟ้า-ขาว สายจันทบุรี-ตราด ทะเบียน 10-7623 อุดรธานี ซึ่งเป็นของบริษัท 407 พัฒนา โดยมีนายบุญเตียง โพธิศรี อายุ 55ปี เป็นตนขับ สภาพกระจกหน้าแตก นอกจากนั่นบริเวณหน้ารถบัสยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ติดคาอยู่หน้ารถบัส ซึ่งรรบัสปรับอากาศคันดังกล่าวมีผู้โดยสารมาเต็มคัน ทุกคนอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถามนายบุญเตียง คนขับรถบัส กล่าวว่าตน ได้ขับรถมาจากระยอง เพื่อที่จะมุ่งหน้าหนองคาย โดยขับมาตามปกติพอมาถึงใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสัญญาณไฟสีเหลือง ตนคิดว่าจะทัน แต่สัญาณไฟมาเปลี่ยนเป็นแดงก่อน ซึ่งจะเบรกก็ไม่ทันแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะมีรถจัดรยานยนต์จะออกมา เลยชนเต็มแรง

ในขณะเดียวกันมีผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดคือนางสาววันวิสาข์ สมบูรณ์ ซึ่งจอดรถต่อท้ายรถจักนายนต์ กล่าวว่า คือจริงๆแล้ว ฝั่งของรถบัส เป็นไฟเหลืองกระพริบแล้ว แต่ไม่ยอมเบารถกลับเปิดไฟผ่าหมากขอทางมาอีก ซึ่งทางฝั่งผู้เสียชีวิตนั้นเห็นเป็นไฟเขียวก็ออกตัวไป ไม่คิดว่ารถบัสจะผ่าสัญญาณไฟมาจนชนรถจักรยานยนต์ จนทำให้น้องที่มาด้วยกันทั้งหมด3คน กระเด็นไปคนละทางและเสียชีวิตทั้งหมด

อีกด้านคือนายกฤษดา พงษ์ยินดี อายุ 14 ปี เพื่อนผู้ตายที่ขับรถมาด้วยกัน เล่าว่าพวกตนมาจากบ้านระเบาะนา คลองรั้งจะไปหาเพื่อนที่ระเบาะไผ่ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้สัญญาณไฟฝังตนเป็นสีแดง พวกตนก็จอดรอ จนสัญญาณไฟนั่นเปลี่ยนเป็นสีเขียว พวกตนจึงได้ขับรถออกไป ซึ่งคันของผู้ตายนั่นอยู่หน้าก็เลยออกไปก่อน ไม่รู้ว่ารถบัสฝ่าสัญญาณไฟมาอย่างไร ทำให้ชนเพื่อนตนจนเสียชีวิต

ทางด้านเจ้าหน้าที่จะได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบอีกครั้ง และได้ติดต่อทางบริษัทของรถบัส ให้มาเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร ก่อนที่จะนำรถคันที่ก่อเหตุไปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.พร้อมกับเชิญคนขับรถมาสอบปากคำอีกครั้ง เบื้องต้นตั้งข้อหา ขับรถยนต์โดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้งสามราย กลังจากเจ้าหน้าทีแพทย์เวรชันสูจน์แล้วจะได้มอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

ภาพ/ข่าว สายชล หนูแดง ปราจีนบุรี