คืบหน้า เสียงเด็กร้องชาวบ้านยังผวา บางรายนำนม ขนม มาเซ่นไหว้ เพื่อคลายความหวาดกลัวออยากให้หน่วยงานมาเก็บสิ่งต่างๆออกไปไว้ที่อื่น
1 min readจากกรณี ที่มีหญิงสาวได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ และร้องเรียกหาแม่ อยู่ในป่าสาธารณะบ้านโคกสว่าง ม.7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มานาน 5 วัน 5 คืน บริเวณป่าละเมาะริมทางมีศาลเพียงตาถูกนำมาทิ้งจนเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้านที่ผ่านเส้นทางบ้านตรอกปลาไหล-บ้านเขากระแต จนชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเสียงกุมารทองร้องไห้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้า วันที่ 18 พฤศจิกายน 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณป่าละเมาะริมทางมีศาลเพียงตาถูกนำมาทิ้ง บ้านโคกสว่าง ม.7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี บรรยากาศเงียบสงบหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีร่างทรงพร้อมชาวบ้านมาพิสูจน์ว่าเสียงร้องเหมือนเด็กร้องไห้เรียกหาแม่มันคืออะไรกันแน่ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ส่วนที่หญิงสาวได้ยินเสียงเหมือนเด็กร้องชาวบ้านบอกว่าหลอนหรือเปล่า
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ประถมพร สีเนียม อายุ 35 ปี หญิงสาวที่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ในป่าตรงบริเวณที่มีศาลล้างมาทิ้ง พร้อมกับนำขนม นม น้ำแดง มาเซ่นไหว้เชื่อว่าเสียงที่ได้ยินน่าจะเป็นเสียงกุมารร้องขอความช่วยเหลือ เพราะบริเวณดังกล่าวมีกุมารทองจำนวนมาก
น.ส.ประถมพร สีเนียม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เธอได้ยินเสียงเด็กร้องหาแม่ บอกว่าหนูหิว และหนาว ทีแรกคิดว่าเด็กข้างบ้านร้องไปถามเพื่อนบ้านข้างเคียงก็บอกว่าแถวนี้ไม่มีเด็ก ส่วนตัวเธอก็พยายามหาเสียงเด็กร้องจนรู้ว่าเสียงที่ได้ยินอยู่บริเวณป่าตรงข้ามกับบ้านของเธอ หลังจากนั้นจึงได้ขี่จักรยานออกตามหา แต่ก็ไม่พบเด็กแต่อย่างใด จนกระทั่งหามาถึงตรงจุดที่มีศาลล้างมาทิ้งเหมือนกับที่ได้ยินเสียงเด็กร้องตรงนี้ แต่พยายามค้นหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบเด็กแต่อย่างใด จนกระทั่งมีลุงหมอมาดูว่าอาจจะเป็นก็มารทองที่ถูกนำมาทิ้งขอความช่วยเหลือจากตัวเธอก็เป็นไปได้ จึงสื่อถึงกัน หลังจากที่ลุงหมอมาทำพิธีเสียงเด็กร้องก็หายไป มาวันนี้ได้ซื้อขนม นม น้ำหวาน มาเซ่นไหว้กุมารทองดังกล่าว
ด้านคุณยาย สะอิ้ง เป็นอยู่ อายุ 66 ปี หลังจากทราบข่าวจึงได้เดินทางมาพิสูจน์เสียงร้อง พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อก่อนเคยผ่านเส้นทางนี้บ่อยแต่ก็ไม่พบอะไร จนกระทั่งรู้ข่าวว่ามีคนได้ยินเสียงเด็กร้องเชื่อว่าน่าจะเป็นเสียงร้องของกุมารทองที่ถูกนำมาทิ้ง เพราะสถานที่ตรงนี้มีกุมารทองถูกนำมาทิ้งเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากบริเวณที่มีศาลล้างถูกนำมาทิ้งจนเป็นที่หวาดผวาของชาวบ้านที่ผ่านทาง ขอให้นำซากศาลรวมทั้งรูปปั้นต่างๆไปไหว้ที่อื่น หรือทำความสะอาดเพื่อไม่ให้ชาวบ้านหวาดกลัวแต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า ปราจีนบุรี