รับแจ้งขอความช่วยเหลือเด็กขาติดล้อรถ.จยย น่าเห็นใจพบว่าครอบครัวนี้ยึดอาชีพทำที่โกยขยะเลี้ยงลูก4คน
1 min readเมื่อเวลา11.30น. ของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ได้รับการประสานจากพลเมืองดี ให้ไปช่วยเหลือเด็กซึ่งขาติดล้อรถจยย. เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครจุดกม.12 พร้อมผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ถนนเศรษฐกิจ 1 ขามุ่งหน้าเมืองสมุทรสาคร บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ใกล้เคียงแยกบางปลา ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กฒ สระบุรี 6622 ต่อพ่วงข้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าพลเมืองดีเห็นเด็กกำลังบาดเจ็บจึงรีบกลับรถมาช่วยเหลือเอาไว้ได้
นายสุทิน พันเพ็ชร อายุ49ปี ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 188/4 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรีจังหวัดสระบุรี นายสุทิน ผู้เป็นพ่อกอดลูกสาววัย4ขวบที่อยู่ในอาการตกใจ พากันร้องไห้ทั้งพ่อและลูก ซึ่งขาข้างซ้ายของเด็กหญิงเข้าไปติดในล้อ พลเมืองดีช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย โชคดีที่ไม่มีบาดแผลมีเพียงรอยถลอกเล็กน้อย ก่อนที่ พลเมืองดีจะกลับก็ได้มอบเงินเป็นค่าขนมให้กับเด็กๆด้วย ซึ่งรถจยย.พ่วงข้างคันดังกล่าวยังมีเด็กๆวัยไล่เลี่ยกันอีก3 คน รวมน้องที่บาดเจ็บด้วยก็เป็น 4 คน เด็กทั้ง 4 คือลูกของนายสุทิน ประกอบกับนายเอกสิทธิ์ พรอยศรี เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครจุดกม. 12ที่เดินทางมาช่วยเหลือได้ตรวจสอบขาของเด็กหญิงแล้วพบว่าอยู่ในอาการปลอดภัย เด็กเดินได้ตามปกติเพียงแค่มีอาการตกใจเท่านั้น
นายเอกสิทธิ์ สังเกตเห็นปี๊บสังกะสีที่วางเรียงอยู่ด้านบนรถพ่วงข้างก็เอะใจว่าเหมือนเคย ปรากฏอยู่ในโลกโซเชียล ว่าเป็นครอบครัวที่สู้ชีวิตด้วยการทำที่โกยขยะขาย ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่าทั้งหมดเดินทางมาจากไหนกัน นายสุทิน เล่าว่า เดิมตนเองเป็นคนจังหวัดเพชรบุรี ภรรยาเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ ปัจจุบันเช่าห้องอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ที่เดินทางผ่านมาจังหวัดสมุทรสาครนี้ก็เดินทางมาตามยถากรรมค่ำไหนนอนนั่น ตรงไหนที่เห็นว่าเหมาะก็จอดทำที่โกยขยะขายข้างทาง คืนวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 ก็ได้จอดรถพ่วงข้างนอนกันอยู่ข้างทาง มีคนใจดีพบเห็นก็ออกค่าห้องพักชั่วคราวให้ พอรุ่งเช้าก็ออกเดินทางและมาประสบเหตุดังกล่าว
สาเหตุที่ลูกสาวขาไปติดล้อ เพราะนอนหลับ ส่วนภรรยาที่มาด้วยก็เมาสุราพอเห็นขาลูกติดล้อก็โวยวายโทษสามีจากนั้นก็ทะเลาะกันแล้วภรรยาก็วิ่งข้ามถนนอีกฝั่ง โชคดีที่ไม่ถูกรถชนไปอีกคน และบอกอีกว่าเมื่อก่อนตนเองกับภรรยาขายปาท่องโก๋แต่ด้วยเงินทุนที่ไม่พร้อม พูดตรงๆตามลักษณะอาการที่เห็นด้วยว่า ภรรยาติดเหล้าหนักเวลาออกไปขายปาท่องโก๋ก็ปล่อยลูก อยู่กันตามลำพังตนเป็นห่วง ให้ภรรยาไปช่วยขายลูกค้าก็ดูไม่เหมาะสมจึงหยุดขายไปได้วิชาการทำที่โกยขยะมาจากคุณตาคนหนึ่งที่โคราช นายสุทิน บอกกับคุณตาว่าขอวิชาเพื่อจะนำไปเลี้ยงลูกได้ไหม คุณตาท่านนั้นก็รู้สึกสงสารยินดีถ่ายทอดวิชาการทำที่โกยขยะมาให้ จากนั้นนายสุทิน ก็ยึดอาชีพทำที่โกยขยะขายมาได้ประมาณ5เดือน ทำเองและขายเองในราคาอันละ 55 บาท หักต้นทุนแล้วจะได้กำไรแค่เพียงอันละ15-20บาท รายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ขายไม่ได้ ผู้สื่อข่าวช่วยซื้ออุดหนุน นายสุทินก็ทำให้ทันที โดยทุกๆขั้นตอนที่เห็นไม่ใช่เรื่องง่าย เสี่ยงกับการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นการถูกเสี้ยนตำปี๊บสังกะสีบาดมือ ที่โกยขยะสังกะสีฝีมือของนายสุทินเป็นงานที่ละเอียด เรียบร้อย ปี๊บสังกะสีที่ใช้ก็เป็นสังกะสีอย่างหนา มีอายุการใช้งานยาวนาน
นายเอกสิทธิ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครได้มอบถุงมือให้นายสุทินไว้ใช้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก นายสุทินได้รับแล้วรู้สึกดีใจมาก บอกว่า เคยเก็บถุงมือแบบนี้ได้คู่หนึ่งใส่ทำที่โกยขยะแต่ขาด ไปนานแล้วแล้วไม่มีเงินซื้อ ถุงมือแบบนี้ช่วยให้ทำงานได้สบายมากไม่ต้องกลัวสังกะสี บาดมือ เหนียวแน่นจับแล้วไม่ลื่น อุปกรณ์ชนิดนี้ที่เรียกว่า ที่โกยขยะ เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งรายได้เลี้ยงปากท้อง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่สิ้นเปลือง ทำให้ครอบครัวนี้ต้องเร่ไปเรื่อยๆเพื่อหาที่ขายไม่ซ้ำพื้นที่ ทำให้เด็กๆ ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะต้องติดตามพ่อแม่ ลูกชายคนโตซึ่งอยู่ในวัยกำลังเรียน น้องอยู่ชั้นป6 แต่ก็ไม่ได้ไปโรงเรียนน้องบอกว่าอยากเรียนหนังสือแต่มีความจำเป็นต้องมากับครอบครัว ความกตัญญูของน้องที่ได้เห็นก็คือการช่วยพ่อกับแม่ทำด้ามจับที่โกยขยะ
ฝากทุกๆท่านที่พบเห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่บรรทุกปี๊บ และเด็กๆ4 คนนี้ โปรดช่วยกันอุดหนุน ปกติคุณสุทินจะต้องซื้อปี๊บในราคาใบละ 30 บาท จะเลือกใช้ปี๊บอย่างหนา ส่วนด้ามจับก็จะไปขอแบ่งตามจุดที่มีการรื้อเก็บป้ายโฆษณาต่างๆ หรือถ้าใครอยากช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์ก็จะเป็นเรื่องที่ดี หากจะเป็นการสร้างบุญซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดเช่นที่โกยขยะถวายวัด โดยสั่งนายสุทิน ก็น่าจะสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ และอีกไม่นานนายสุทินก็จะกลับมาขายปาท่องโก๋อีก เพราะได้ต่อเติมส่วนที่จะตั้งกระทะไว้ที่รถพ่วงข้างคันนี้แล้ว
ภาพ/ข่าว ชูชาติ แดงพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร