รวบแล้ว!! 3ผู้ต้องหาแก๊งค์ตบทรัพย์แสบ ขับจี้ให้ถูกชนก่อนเรียกเงิน 4-5 พันบาท (มีคลิป)
1 min readตำรวจสระแก้วรวบ 3 ผู้ต้องหาแก๊งค์ตบทรัพย์แสบ ขับรถสร้างสถานการณ์ให้รถเกิดอุบัติเหตุ เพื่อเรียกเงิน 4,000-5,000 บาท ตกเป็นเหยื่อหลายราย เป้าหมายรถเก่าไม่มีประกัน ชอบออกตระเวนหาเหยื่อตามถนนหลวงพื้นที่ จ.สระแก้ว ตามรวบได้ที่ จ.ปทุมธานี ยกแก๊ง สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สระแก้ว สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีแก๊งตบทรัพย์ในพื้นที่ จ.สระแก้วได้แล้ว จำนวน 3 ราย ที่โรงแรมคลองสระรีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ฯ ภายหลังมีการเผยแพร่ภาพคลิปผู้เสียหายถูกแก๊งดังกล่าวตบทรัพย์ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาทางสื่อโซเชียลมีเดีย และมีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสระแก้ว จำนวน 3 ราย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่จับกุมตัวได้ ประกอบด้วย น.ส.ศศิญากรณ์หรือแอ๋ว เฉลยพจน์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 44 ม.4 ต.โพธิ์ทอง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ จ.209/2562 ลง 4 ต.ค.62 ข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ,นายสมคิดหรือคิด แม่นปืน อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 45/1 ม.4 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว หมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ จ.257/2562 ลง 13 พ.ย.62 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และ นางพรพิมลหรือนิ่ม แม่นปืน อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 45/1 ม.4 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว หมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ จ.258/2562 ลง 13 พ.ย.62 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ จำนวน 2 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข-8665 มหาสารคาม และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน 2057 สระแก้ว
พล.ต.ต.ปราศรัย เปิดเผยว่า พฤติการณ์ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุก่อนถูกจับกุม โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค.62 , 30 ก.ย.62 และ 1 ต.ค.62 ได้มีเหตุกรรโชกทรัพย์ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สระแก้ว ผู้เสียหายทั้งหมดได้มาแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองสระแก้ว จากการสืบสวนทราบพฤติการณ์ของคนร้าย คือ เลือกเหยื่อรถยนต์ที่มีสภาพเก่าและไม่มีประกันภัย คนร้ายคันที่ 1 จะขับรถจี้ตามหลังด้วยความเร็ว บีบแตรและเปิดไฟไล่ให้หลบไปทางซ้ายมือ เมื่อผู้เสียหายเปลี่ยนช่องทาง คนร้ายคันที่ 1 จะขับรถเลยไป คนร้ายคันที่ 2 ที่อยู่ทางซ้าย จะขับรถยนต์พุ่งขึ้นไปข้างหน้าเพื่อให้เกิดการชน ทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ คนร้ายคันที่ 2 ลงมาและได้ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ครั้งละประมาณ 4,000-5,000 บาท โดยจะตระเวนกระทำความผิดในลักษณะนี้เรื่อยไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ของ จ.สระแก้วและพื้นที่อื่นทั่วประเทศ
ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า รถยนต์คันก่อเหตุ 1 คัน คือรถยนต์เก๋ง วีออส สีดำ ทะเบียน กข-8665 มหาสารคาม เป็นของ น.ส.ศศิญากรณ์ เฉลยพจน์ จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อศาลจังหวัดสระแก้ว และได้เดินทางติดตามจับกุม น.ส.ศศิญากรณ์ฯ ที่ จ.ร้อยเอ็ด ไม่พบ และสืบทราบว่า รถยนต์วีออส สีดำ คันดังกล่าว ได้นำมาซุกซ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 52 ม.11 ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด จึงได้ทำการตรวจยึด ส่ง สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้น ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนต่อเนื่องมาโดยตลอด กระทั่ง วันที่ 13 พ.ย.62 พบว่า น.ส.ศศิญากรณ์ฯ พร้อมพวก ได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และมาพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมคลองสระรีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังมาตรวจสอบที่โรงแรมคลองสระรีสอร์ท พบ น.ส.ศศิญากรณ์ พร้อมพวกยืนอยู่ จึงได้แสดงหมายจับและจับกุม และพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน 2057 มีลักษณะตรงตามรถยนต์ต้องสงสัยที่ก่อเหตุอีก 1 คัน จอดอยู่ด้วย จากการสอบถาม น.ส.ศศิญากรณ์ฯ ยอมรับสารภาพว่า รถยนต์คันดังกล่าวคือคันที่ร่วมก่อเหตุที่ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นรถยนต์ของ นายสมคิด แม่นปืน และ นางพรพิมล แม่นปืน จึงได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะคันดังกล่าวและนำตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองสระแก้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.ต.ต.ปราศรัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น พร้อมกับแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่่เคยประสบเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวและถูกแก๊งตบทรัพย์กลุ่มนี้กระทำ สามารถเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้รับโทษหนักยิ่งขึ้น ซึ่งคดีร่วมกรรโชกทรัพย์มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ภาพ/ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว