สุรินทร์ รับวันวาเลนไทน์ เตรียมจัดงาน จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง 60 คู่ ยิ่งใหญ่สุดในโลก ทั้งพิธีฮาวปลึงจองได แบบชาวเขมร และพิธีซัตเตแบบชาวกูยเลี้ยงช้าง ในวันแห่งความรัก (มีคลิป)
1 min readวันนี้( 12 ก.พ.63) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ได้มีการเตรียมจัดกิจกรรมวันแห่งความรักกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้มีการกำหนดจัดงาน “จดทะเบียนบนหลังช้าง” ประจำปี 2563 (ครั้งที่ 13) ในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยเช่นกัน ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 แล้ว โดยการจัดให้มีพิธีสมรสแบบ “พิธีฮาวปลึงจองได” และ “พิธีซัตเต” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์ และประชาสัมพันธ์โครงการโลกของช้าง (Elephant Wold) อีกทางหนึ่ง โดยจัด พิธีฮาวปลึงจองได วันที่ 13 ก.พ.63 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา(สวนใหม่)ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ และพิธีซัตเต จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง วันที่ 14 ก.พ.63 ที่ ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง (คด-ชะ-สึก-สา)ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เป้าหมายจำนวน 60 คู่ (120 คน)
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีฉลองมงคลสมรสในรูปแบบ พิธีฮาวปลึงจองได หรือการบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีชาวเขมร กิจกรรมขบวนขันหมากบนหลังช้างของเจ้าบ่าวแห่มาหาเจ้าสาว พิธีแต่งงานแบบชาวกวย “พิธีซัตเต” พิธีเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล และการจดทะเบียนบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ในโลก บันทึกภาพประวัติศาสตร์การจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในทุกๆปีจะมีคู่บ่าวสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างจำนวนมาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการท่องเที่ยว อบจ.สุรินทร์ โทร.044 511975 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ โทร 044-514044, 044518530
นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสุรินทร์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างและการประกอบพิธีแต่งงาน แบบชาวกวยหรือ “พิธีซัตเต” ของชาวพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดสุรินทร์ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวในโลก
เจ้าบ่าวแต่งกายด้วยการนุ่งโสร่งไหม เสื้อแขนยาวสีขาว ผ้าไหมพาดบ่า ศีรษะสวมด้ายมงคล 3 สี เจ้าสาวนุ่งผ้าซิ่นไหมลายกวย เสื้อแขนกระบอกสีอ่อนพาดด้วยสไบสีแดง และศีรษะสวม “จะลอม” (มงกุฎที่ทำจากใบตาล) เข้าประกอบพิธีตามลำดับความสำคัญ คือ พิธีสวมด้ายมงคลบ่าว-สาว บายศรีสู่ขวัญ และพิธีถอดคางไก่ทายชีวิตคู่บ่าว-สาวโดยหมอพราหมณ์รวมถึงเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล และการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
จากนั้นร่วมบันทึกความหวานเป็นภาพประวัติศาสตร์สุดประทับใจ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ตามแผนตลาดการท่องเที่ยว ปี 2563 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ ตามโครงการ Cool วันธรรมดาน่าเที่ยว @สุรินทร์ – ศรีสะเกษ