ยโสธร “บิณฑ์” ถอนแจ้งความคดีหักหัวคิวเงินน้ำท่วม พร้อมให้คู่กรณีสาบานหน้าพระพุทธรูปศาลจังหวัด
1 min readนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เดินทางไปถอนแจ้งความกับผู้นำชุมชนในจังหวัดยโสธรแล้วในคดีหักหัวคิวเงินช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองยโสธร ภายหลังจากมีการไกล่เกลี่ยกันได้ในขณะ นางรุ้งรัชนี ไชยวิชิต หรือแม่กุ้ง ผู้ต้องหาที่ 1 ก็มีการถอนแจ้งความที่มีการฟ้องกลับ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดังได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดยโสธร พร้อมกับคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้มีการแจ้งความเอาผิดกับ นางรุ้งรัชนี ไชยวิชิต หรือแม่กุ้ง จำเลยที่ 1 พร้อมกับพวกรวม 7 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำชุมชนในตำบลน้ำคำใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธรและชุมชนในเขตเทศบาลเมืองยโสธร ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เนื่องจากเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2562 นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้นำเงินไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองยโสธร แต่ได้มีกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันวางแผนหักเงินหัวคิวช่วยเหลือน้ำท่วมรายละ 4,000 บาท จากทั้งหมดที่ได้รับรายละ 5,000 บาท จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศจนนำไปสู่การแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหา
และในวันนี้ศาลจังหวัดยโสธรได้นัดคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย มาไกล่เกลี่ยกัน และในวันนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ด้วยดีโดยได้มีชาวบ้านบางส่วนที่รับเงินไปก็ได้เดินทางไปร่วมไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ด้วย นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ จึงพอใจในข้อตกลงและยินยอมถอนแจ้งความให้กับกลุ่มผู้ต้องหาทุกคนพร้อมกับได้นำคู่ความทั้งหมดไปกล่าวคำสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณศาลจังหวัดยโสธร ว่าสาเหตุที่ได้ร่วมกันกระทำไปทั้งหมดนั้นเพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ให้กับลูกบ้านเท่านั้นไม่มีเจตนาที่จะเบียดบังเอาเงินทั้งหมดไปใช้ส่วนตัวแต่อย่างใด โดยมีชาวบ้านที่น้ำไม่ท่วมจริงและได้รับเงินไปได้พากันนำเงินมาคืนให้ จำนวน 18 คน รวมเป็นเงินประมาณ 90,000 บาท ขณะเดียวกัน นางรุ้งรัชนี ไชยวิชิต หรือแม่กุ้ง ผู้ต้องหาที่ 1 ก็ได้มีการถอนแจ้งความเอาผิด นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ในข้อหา หมิ่นประมาท เช่นกัน
ทางด้านนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางไปเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีและได้มีการเจรจากันจนเป็นที่พอใจทั้งฝ่าย ซึ่งฝ่ายคู่กรณีก็ยอมรับว่าที่ได้ทำลงไปนั้นเพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ให้กับลูกบ้านของตนเองถึงแม้ว่าบ้านบางหลังอาจจะไม่ได้ท่วมจริงแต่พื้นที่นาถูกน้ำท่วมและบางคนก็มีฐานะยากจนและผู้ป่วยอยู่ในบ้านด้วยจึงมีความจำเป็นในการใช้จ่ายเงิน ตนจึงเกิดความเห็นใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจึงไม่ได้ติดใจและยังมีชาวบ้านบางส่วนได้นำเงินที่รับไปมาคืนให้ประมาณ 18 คน รวมเงินประมาณ 90,000 บาท ตนจึงได้ถอนแจ้งความให้ทั้งหมดโดยไม่ติดใจใดๆ ขณะเดียวกันแม่กุ้งที่ฟ้องกลับตนในข้อหาหมิ่นประมาท ก็ถอนแจ้งความไม่เอาผิดตนเช่นกัน
ภาพ/ข่าว นิ่มนวล มานาดี