ตำรวจอุบปมฆ่าทุบหนุ่มรอยสักจระเข้ ด้านพ่อผู้ต้องสงสัยเข้าให้ปากคำแล้ว ปัดไม่รู้เรื่อง
1 min readจากเหตุการณ์ที่นายไพรัช จันทร์หอม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ที่ 8 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร หนุ่มลายสักจระเข้ ถูกคนร้ายใช้ฆ้อนทุบศีรษะและใบหน้า เสียชีวิตบริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 67/1 ซอยเอกชัยสายเก่า หมู่ที่ 2 ต.กาหลง อ.เมืองสมุทรสาคร โดยหลังเกิดเหตุนายประนอม ศรีรักษา อายุ 37 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมตัวมาสอบปากคำไว้ได้ แต่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าใดๆในคดีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ของวันที่ 02 มีนาคม 2563 พ.ต.อ.วีระ วิจิตร์หงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ให้ติดตามความคืบหน้านั้น ก็ได้เดินทางลงพื้นที่ไปบ้านที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.ศุภชัย ศรสุคนแก้ว ผกก.สภ.บางโทรัด และ พ.ต.ท.นนท์ ภักดีพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางโทรัด เพื่อดูร่องรอยของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยได้พบกับพ่อของผู้ต้องสงสัยคือ นายอ้วน ศรีรักษา อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 52 หมู่ที่ 2 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่กำลังนำอาหารมาให้สุนัขพอดี
นายอ้วน ศรีรักษา บิดาของผู้ต้องสงสัยเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติตนเองไม่ได้นอนที่บ้านหลังนี้ จะเข้ามาก็ตอนเย็นๆ เพื่อมาเปิดน้ำเข้าบ่อเลี้ยงปลา โดยเมื่อวานนี้ตนเองเข้ามาที่บ้านเพื่อเปิดน้ำเข้าบ่อเลี้ยงปลาตามปกติแล้ว ก็กำลังจะเดินเข้าไปอาบน้ำ แล้วก็เห็นคนนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้ถุนบ้านทีแรกนึกว่าคนเมา แต่พอเห็นเลือดตนเองก็ถอยหลังหนีทันที่ จึงไม่รู้ด้วยว่าเป็นใคร จากนั้นก็รีบขับรถออกไปเพราะตนเองกลัวผี ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าขณะนั้นลูกชายอยู่ที่ไหนและไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนตายเป็นลูกชายตนเองหรือไม่ เมื่อขับรถออกไปข้างนอกแล้วก็ไปขอยืมโทรศัพท์คนรู้จักโทรไปบอกลูกเขยว่ามีคนตายที่บ้าน ซึ่งทีแรกลูกเขยไม่เชื่อ แต่ตนเองย้ำว่าเป็นเรื่องจริง ทางลูกเขยพร้อมด้วยลูกสาวและเมียของตนจึงเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการเพื่อมาดูว่ามีคนตายจริง ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ
นายอ้วนฯ บอกอีกว่า ตนเองไม่รู้ว่าปกติลูกชายกับเพื่อนไปมาหาสู่กันอย่างไร และคนที่เสียชีวิตใช่เพื่อนของลูกชายหรือไม่ ส่วนตนกับลูกชายนั้นไม่ค่อยได้พูดกัน ตนเองจะมาบ้านนี้ก็แค่เข้ามาเปิดน้ำเข้าบ่อตอนเย็นแล้วก็กลับออกไปอยู่กับพี่สาว ส่วนลูกชายจะอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งลูกชายนั้นมีนิสัยที่แปลกๆ ไม่ชอบพูดกับใครอีกทั้งยังเคยทั้งเข็นรถที่จอดไว้ลงไปในบ่อเลี้ยงปลา และทุบรถเสียหายอีกด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าในทางคดีนั้น นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวนายประนอม ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว ก็ยังได้ส่งวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ พร้อมกับหาหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องสงสัย กับ ผู้เสียชีวิตนั้น พบว่ารู้จักเป็นเพื่อนกัน แต่ยังไม่เปิดเผยถึงสาเหตุของการฆาตรกรรม ขณะที่นายอ้วน ศรีรักษา พ่อของผู้ต้องสงสัย ได้เข้าให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นเชื่อได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้เป็นผู้นำพาผู้ต้องสงสัยหลบหนีแต่อย่างใดทั้งสิ้น