ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับพาณิชย์ล่อซื้อขายหน้ากากอนามัยราคาสูงในตลาดโรงเกลือกว่า 25,000 ชิ้น (มีคลิป)

ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ล่อซื้อพ่อค้าขายหน้ากากอนามัยในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ เปิดขายทางเฟซบุ๊กในราคาสูง ทำให้เกิดภาวะปั่นป่วนในตลาด ได้ผู้ต้องหา 2 ราย และยึดหน้ากากอนามัยของกลางกว่า 25,000 ชิ้น

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัยในตลาดอย่างหนัก เนื่องจากสินค้าหายากและมีราคาสูง ส่งผลให้มีพ่อค้าหลายรายฉวยโอกาสขึ้นราคาและเปิดขายผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมากนั้น ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว ,พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท1, พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับ นส.นงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ,ตำรวจ กก.ควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ,ตำรวจ ส.ทท.3 กก.2 บก.ทท1 ,ตำรวจ สภ.คลองลึก , ตม.สระแก้ว ,ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตำรวจ บก.สส.ภ.2 ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.พัฒษณียา เจริญพันธ์จันทร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/1 ม.6 ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และนายชาเมด วอน (SAMETH VORN) อายุ 50 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่บริเวณประตูทางเข้าที่ 2 ล็อคที่ B18 ตลาดโรงเกลือ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 2 ยี่ห้อ จำนวน 10 ลัง รวมทั้งหมด 25,000 ชิ้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่่ชุดจับกุม ได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วน ซึ่งราคาของสินค้าอันเป็นความผิดตามมาตรา 29 และมีโทษตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ สตช.ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ค้าที่ขายหน้ากากอนามัยผ่านทาง Facebook โดยมีพฤติการณ์ที่ขายราคาแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือหลอกลวง-ฉ้อโกงประชาชน และ ผอ.ศปอส.ตร. สั่งการ ให้เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ดำเนินการโดยเร่งด่วน

สำหรับผู้ต้องหารายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจพบจากเพจ “หน้ากากอนามัยราคาถูก” พบว่ามีผู้มาโพส ซื้อ-ขายหน้ากากอนามัยจำนวนมาก และหลายราย มีการเสนอขายหน้ากากอนามัยในราคาที่สูงมาก เจ้าหน้าที่จึงได้แฝงตัวไปเป็นผู้ซื้อ ติดต่อกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก บัญชี “Prao Kanokwan” ที่มีการโฆษณาเสนอขายสินค้าหน้ากากอนามัยยี่ห้อ PHUONG NAM ผู้ขายเป็นหญิง โฆษณาว่ามีสินค้าหน้ากากอนามัยพร้อมส่งขายให้ลูกค้า 500,000 ชิ้น จึงติดต่อทาง inbox ของเฟซบุ๊กดังกล่าวติดต่อขอซื้อ การเจรจาได้ตกลงซื้อขายหน้ากากอนามัย จำนวน 10,000 ชิ้น หรือ 200 กล่อง ในราคากล่องละ 690 บาท นัดหมายส่งมอบสินค้าในวันที่ 6 มี.ค.63 เวลา 09.00 น.โดยผู้ขายได้ให้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่นัดหมาย เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปที่หมายเลขโทรศัพท์ผู้ขายและแจ้งให้ไปรับสินค้าที่บริเวณหน้าร้าน หน้าร้านกาแฟอเมซอน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับ น.ส.พัฒษณียา ผู้ต้องหา ซึ่งพาเจ้าหน้าที่ ที่แฝงตัวไปรับของที่ร้านค้าล็อค B18 ตลาดโรงเกลือ พบผู้ชายยืนอยู่ ทราบชื่อภายหลังว่า นายชาเมด วอน สัญชาติกัมพูชา ได้สอบถามว่า ขายหน้ากากอนามัย 1 กล่อง 50 ชิ้น ในราคาเท่าไร นายชาเมด ตอบว่า 700 บาท แต่ถ้าซื้อในปริมาณมากจะลดราคาให้ จึงสั่งไป 4 ลัง ลังละ 50 กล่อง และได้ทำการสั่งเพิ่มไปอีก 6 ลัง รวมจำนวน 10 ลัง นายชาเมดจึงได้ให้คนงานนำหน้ากากอนามัย จำนวน 10 ลัง หรือ 500 กล่อง จำนวน 25,000 ชิ้น มาส่งบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและเข้าทำการตรวจค้นจับกุมดังกล่าว พบว่า หน้ากากอนามัยทั้งหมด ผลิตมาจากประเทศเวียดนาม จึงได้เชิญตัวทั้งสองคนมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว3 กองกำกับการ2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว1 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมกับรับสารภาพว่า เป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อหาลูกค้า เมื่อมีการตกลงซื้อขายแล้วก็จะติดต่อให้นายชาเมด นำหน้ากากอนามัยมาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ โดย น.ส.พัฒษณียา บอกว่า จะได้รับค่าตอบแทน 20-30 บาทต่อกล่อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมของกลาง ส่งให้ ร.ต.ท.นพดล สมนึก พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว