แดงอ้อมน้อยเดือด! ขับไล่”สมัคร ป้องวงษ์” ซัดทรยศอนาคตใหม่และประชาชน
1 min read
เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 08 มีนาคม 2563 ตัวแทนกลุ่มคนรักอนาคตใหม่เกือบ 50 คน ในพื้นที่เขต 2 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ออกมารวมตัวกันขับไล่นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสมุทรสาคร เหตุเนื่องจากไม่พอใจที่นายสมัครเปลี่ยนข้างไปสนับสนุนรัฐบาล ด้วยการยกมือให้ความไว้วางใจ 6 รัฐมนตรีในการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจเมื่อครั้งที่ผ่านมา โดยทั้งนี้กลุ่มคนรักอนาคตใหม่ไม่เอาเผด็จการ ก็ใช้วิธีการขับไล่นายสมัครฯ ด้วยการถือป้ายขับไล่ และแห่โลงศพ (จำลอง) จากถนนเพชรเกษม เข้ามาที่ทำการบริเวณหน้าสำนักงานสาขาพรรคอนาคตใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 ตั้งอยู่เลขที่ 74/167 หมู่ที่ 13 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ห่างจากถนนเพชรเกษมเข้ามาประมาณ 600 เมตร ลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 1 คูหา ทาด้วยสีส้ม ประตูปิดสนิท ไม่มีชื่อพรรคหรือบุคคลใดอยู่ภายใน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่รอบๆ บอกว่า ผู้ที่อาศัยอยู่คือนายสมัคร ป้องวงษ์ และครอบครัว แต่ได้มาย้ายข้าวของออกไปตั้งแต่เมื่อวานเย็น (07 มี.ค.63) แล้ว โดยไม่มีใครรู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ขณะที่การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.กระทุ่มแบน ทหาร และปกครองอำเภอ เข้ามาคอยตรึงสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือชุมนุมเกินเลย ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับบรรยากาศของการชุมนุมในครั้งนี้ กลุ่มคนรักอนาคตใหม่ไม่เอาเผด็จการ ก็ได้ถือโลงศพ (จำลอง) และป้ายต่างๆ มาวางไว้ที่ด้านหน้าที่ทำการสาขาพรรคฯ แล้วก็วางดอกไม้จันทน์ ก่อนที่แกนนำฯ จะอ่านแถลงการณ์สรุปได้ว่า การออกมาชุมนุมในครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ เป็นการแสดงเจตนารมณ์และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อขับไล่ผู้สนับสนุนเผด็จการเท่านั้น โดยที่ต้องออกมารวมตัวขับไล่นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สมุทรสาครนั้น ก็เนื่องจากพวกตนได้เทคะแนนเสียงเลือกนายสมัครฯ เข้ามาเป็นตัวแทนในฐานะ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เพราะชื่นชอบในนโยบายและอุดมการณ์ของพรรค จึงหวังว่านายสมัครจะเป็นหนึ่งเสียงของฝ่ายค้านที่จะร่วมกันต่อต้านระบบเผด็จการของรัฐบาล แต่ปรากฏว่าในการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อครั้งที่ผ่านมา นายสมัคร ป้องวงษ์ กลับไปยกมือสนับสนุน 6 รัฐมนตรี เป็นการทรยศต่อพรรคอนาคตใหม่ และกลุ่มคน 36,838 คนที่ลงคะแนนเสียงเลือกนายสมัครเข้าไป ทำให้ทุกคนเกิดความไม่พอใจ จึงต้องการให้นายสมัครคืนคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนกลับมาด้วยการประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส.แล้วก็ให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ หากนายสมัครฯ ยังคงได้เป็น ส.ส.เหมือนเดิม พวกตนก็จะยอมรับในความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อได้ว่านายสมัครได้คะแนนมาจากตัวเองไม่ใช่เสียงของอนาคตใหม่ แต่ถ้านายสมัครแพ้ก็ยืนยันได้ว่าเสียงที่ได้มานั้น เป็นเสียงของคนรักอนาคตใหม่ ไม่ใช่เพราะที่ตัวนายสมัครฯ
แกนนำกลุ่มคนรักอนาคตใหม่ ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้หากนายสมัครฯ ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมลาออกจากการเป็น ส.ส. พวกตนก็จะเดินหน้าขับเคลื่อนกดดันต่อไป แต่จะเป็นในรูปแบบใดนั้น ก็จะต้องมีการหารือกันก่อน เพราะอย่างไรพวกตนก็จะไม่ยอมให้ ส.ส.ที่ทรยศกับกับอุดมการณ์และนโยบายของพรรค ไม่จริงใจและไม่ทำตามคำพูดที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน 36,838 คะแนนเสียงที่ลงให้ไปนั้น ยืนอยู่ในสภาข้างรัฐบาลอย่างแน่นอน
ด้านชาวบ้านที่อยู่ในระแวกที่ทำการสาขาพรรคอนาคตใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 ก็บอกว่า พวกตนเป็นหนึ่งในคะแนนเสียงที่เลือกนายสมัคร ป้องวงษ์ เข้าไปเป็น ส.ส. เพราะชื่นชอบในนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ก่อนหน้านี้เมื่อเจอกันก็เคยทักทายกัน แต่พอในวันที่ศาลตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ นายสมัครก็เปลี่ยนไปไม่เคยทักทายใคร แต่ก็ไม่เคยมีทีท่าหรือบอกกล่าวว่าจะย้ายพรรคไปร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งตนก็เสียความรู้สึกต่อนายสมัครฯ เป็นอย่างมากเช่นกัน
ภาพ/ข่าว ชูชาติ แดงพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร