240 คนจากเกาหลีไม่พบไข้ ชาวสัตหีบตื่นตัวถือป้ายรณรงค์และแจกใบปลิวอย่ากังวล

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มี.ค.63 จากกรณีมีกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้จำนวนรวมทั้งหมด 240 ราย ที่ผ่านการคัดกรองจากกระทรวงสาธารณสุข ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางมายังอาคารศูนย์เฝ้าระวัง อาคารรับรองสัตหีบ เพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ เคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ กรมวิทยา ศาสตร์กองทัพเรือ ทำการคัดกรองด้วยการตรวจวัดไข้ พร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสให้กับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสาร พร้อมทำการตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่นำติดตัวมาและตรวจยึดไว้เป็นการชั่วคราว ก่อนจะส่งตัวเข้าพักในอาคาร

และมีรายงานข่าวเมื่อวานนี้ ว่าจะมีการเดินทางมาเข้าพักเพื่อเฝ้าระวังอีก 2 เที่ยวบิน จากสนามบินสุวรรณภูมิ มายัง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในช่วงเวลาประ มาณ 02.00 น. และ 04.00 น. ของวันที่ 11 มี.ค.63 ล่าสุดได้รับแจ้งจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การดูแลสุขภาพคนไทยที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ กิจการอาคารรับรองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีว่าตามเวลาที่ได้กำหนดไว้นั้นไม่มีการเดินทางเข้ามาพักเฝ้าระวังเพิ่มแต่อย่างใด ดังนั้นยอดผู้ที่ถูกกักตัวเฝ้าระวังอยู่ที่จำนวน จำนวน 240 ราย เป็นชาย จำนวน 104 คน หญิง 136 คน และจากการตรวจสุขภาพในช่วงเช้า ทุกคนไม่มีไข้และไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด

และที่บริเวณสี่แยกไฟแดง กม.10 ถนนสุขุมวิท หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่มีรถยนต์ผ่านไปมาจำนวนมากได้มีกลุ่มชาวบ้านสัตหีบสวมชุดสีชมพู นำโดยนายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ ผู้บริหารโครงการหมู่บ้านมิรันดา มาถือป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์ จากกรณีรัฐบาลได้มอบหมายให้กองทัพเรือรับคนไทยจากประเทศเสี่ยงมาเพื่อรอดูอาการเชื้อไวรัส โควิด 19 ขออย่าได้ตื่นกลัวกลับเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยมีข้อความ อาทิ เราคนไทยด้วยกันต้องช่วยกัน หน้ากากอนามัยเราไม่เจ็บไม่ไปในที่เสี่ยงไม่จำเป็นต้องใช้, ข้อมูลดีๆ จากคุณหมอ น.ต.หญิง กฐวี บุญตานนท์ คุณหมอแห่งกองทัพเรือไทย ,เชื้อโควิด 19 ไม่ได้ลอยในอากาศ อย่าไปกลัว สละหน้ากากอนามัยไปให้คุณหมอคุณพยาบาลหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อย่ากักตุน…เป็นต้น พร้อมแจกใบปลิว ที่มีข้อความกล่าวถึง เชื้อไวรัส 19 ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด..เป็นข้อความสั้นๆ ให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาอย่างดียิ่ง

นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ ผู้บริหารโครงการหมู่บ้านมิรันดา กล่าวว่า โดยได้กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานหรือรัฐบาลได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์ว่าเชื้อดังกล่าวไม่ได้ติดต่อได้ง่ายอย่างที่คิด พร้อมรณรงค์ให้ให้รัฐบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนได้ช่วยกันกระจายข่าวและสร้างความเข้าใจในสิ่งที่ดีๆ ให้ทุกคนทราบ ตอนนี้ชาวสัตหีบไม่ได้ตายด้วยเชื้อไวรัส โควิด 19 แต่จะตายด้วยพิษของเศรษฐกิจที่ไม่ดีมากกว่า จึงอยากให้รัฐบาลได้ช่วยลงมาดูแลชาวสัตหีบด้วย

ภาพ/ข่าว นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี