(สระแก้ว) “ลูกนายก” ไปญี่ปุ่นกักตัวเองครบ 14 วัน ตรวจยืนยันไม่ติดเชื้อ วอนกลุ่มเสี่ยงรับผิดชอบสังคม
1 min readหนุ่มวัย 31 ปี เลขาฯ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ที่ประกาศกักตัวเองหลังไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นครบ 14 วัน เข้าตรวจร่างกายเพื่อยืนยันไม่ติดเชื้อ วอนกลุ่มเสี่ยงรับผิดชอบต่อสังคม ด้านแพทย์ระบุ ต้องเฝ้าระวังต่อและให้ความสำคัญ ไม่ควรปกปิดเด็ดขาด ด้าน สสจ.เตรียมรับมือผีน้อยอีก 1 ราย ถูกส่งตัวกลับภูมิลำเนาจากศูนย์กักตัวที่กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มาถึงสระแก้วพรุ่งนี้บ่าย (13 มี.ค.)
วันที่ 12 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว นายสุวิจักขณ์ นารีรักษ์ อายุ 31 ปี เลขานุการ นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองวังน้ำเย็น ซึ่งเดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเพื่อกักตัวเอง เนื่องจากเดินทางไปประเทศที่เกิดการระบาดระยะที่ 3 เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม โดยกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อความปลอดภัยของสังคมและเพื่อความปลอดภัยกับครอบครัวของตนเอง ซึ่งเมื่อครบกำหนดกักตัว 14 วันในวันนี้ ได้เดินทางไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันที่ รพ. โดยมีนางจันทร์นิภา เภตรา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รักษาการ หน.กลุ่มงานบริการทั่วไป ได้รับมอบหมายจาก นพ.จักรกฤษณ์ สุรการ รักษาการ ผอ.รพ.วังน้ำเย็น ให้ดูแลการตรวจคัดกรองและตรวจยืนยันดังกล่าว ซึ่งภายหลังเข้าตรวจร่างกายกับ นพ.วสุวัส จรัสมณีกูล แพทย์ประจำห้องตรวจโรคทั่วไป พบว่า ไม่ปรากฏว่ามีอาการหรือติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด
นายสุวิจักขณ์ นารีรักษ์ อายุ 31 ปี เลขานุการ นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองวังน้ำเย็น กล่าวภายหลังการตรวจว่า อยากให้ทุกคนที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทุกคน ช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมช่วยกันกักตัวเองอยู่ในบ้านตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด 14 วัน อย่างน้อยเราไปเที่ยวมาได้ ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อไม่ให้สถานการณ์ของโควิด19 ไม่ระบาดสู่เฟสที่ 3 เพราะการที่เราไปเที่ยวมาได้ก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมได้ด้วย อย่างน้อยตัวเองที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะได้ไม่เป็นพาหะแพร่เชื้อให้คนอื่น อยากให้คนรอบข้างสบายใจมากที่สุด
นพ.วสุวัส จรัสมณีกูล แพทย์ประจำห้องตรวจโรคทั่วไป รพ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว กล่าวว่า กรณีผู้เฝ้าระวังรายนี้เป็นกลุ่มบุคคลที่ค่อนข้างจะเสี่ยงน้อย ซึ่งต้องชื่นชมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างดีเยี่ยม ที่มีการกักตัวเองโดยที่รู้ว่าเราไปประเทศกลุ่มเสี่ยงมา ซึ่งหลังกักตัวครบ 14 วันแล้ว ควรจะสังเกตอาการตัวเองต่ออีกซักระยะหนึ่ง เนื่องจากระยะฟักตัวของโรคอาจจะไม่ใช่ 14 วันตรง ๆ ยังมีรายงานบางส่วนว่า ระยะฟักตัวที่นานเกิน 14 วันก็มีแต่พบได้น้อย และควรสังเกตอาการไข้ น้ำมูก หอบเหนื่อยต่อไป ซึ่งเราอาจจะไม่ติดโรคจากตัวเอง อาจจะติดกับคนที่มาติดต่อที่เพิ่งกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงก็ได้ ซึ่งการแพร่กระจายตอนนี้ค่อนข้างจะเป็นวงกว้างมากขึ้น
“ขอให้สังเกตอาการไข้ มีน้ำมูก เจ็บคอเป็นหลัก ถ้ามีก็รีบมาตรวจที่ รพ.พร้อมกับแจ้งว่า ตัวเองได้เคยไปประเทศกลุ่มเสี่ยงมาหรือไม่ หรือไปติดต่อกับกลุ่มคนที่ไปประเทศนั้น เช่น นักท่องเที่ยวจีนหรือทำงานเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศหรือไม่ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสุขภาพตัวเอง ทั้งนี้ หากมีการปกปิดข้อมูลมีผลทำให้การวินิจฉัยรักษาเป็นไปได้ยากขึ้น อาจจะล่าช้าเกิดผลเสียต่อตัวเองด้วย และการปกปิดทำให้เราไม่สามารถควบคุมโรคได้ดีมากพอ รวมทั้งมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย ” นพ.วสุวัส กล่าว
สำหรับกรณีของนายสุวิจักขณ์ ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคระบาด ได้ปฏิบัติตัวโดย 1.เมื่อถึงบ้านจะรีบเข้าบ้านให้เร็วที่สุดโดยใส่หน้ากากอนามัยและเสื้อผ้าที่มิดชิด 2.เสื้อผ้าทั้งหมดที่ใส่ในทุก ๆ วัน จะถูกแช่ด้วย เดตตอลและอบที่อุณหภูมิมากกว่า 50 องศา 3. รับประทานอาหารโดยสั่งผ่านโทรศัพท์หรือใช้การส่ง ไม่ออกไปพบปะกับผู้คน 4.แจ้งให้โรงพยาบาลในท้องถิ่นทราบว่า ได้เดินทางไปยังประเทศเสี่ยงคือ ญี่ปุ่น อย่างไม่ปิดบัง 5.หากมีไข้จะแจ้งให้ทาง รพ ทราบในทันที และ 6.ทำการวัดไข้ตลอดระยะเวลาที่กักตัวพร้อมบันทึกเป็นรายวัน กระทั่งครบ 14 วัน และเดินทางมาตรวจยืนยันดังกล่าว ซึ่งได้รับการชื่นชมจากสังคมอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ จ.สระแก้ว ล่าสุด วันที่ 12 มี.ค.63 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว แจ้งว่า มีผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สะสม จำนวน 14 ราย เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรค 1 ราย ตรวจยืนยันผลออกมาพบว่า ไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 12 ราย รอผลอีก 2 ราย ส่วนกลุ่มที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังโดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานที่เดินทางกลับจากไปทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตในประเทศเกาหลีใต้หรือผีน้อย ซึ่งในพื้นที่ จ.สระแก้ว มีจำนวน 5 ราย ที่กลับมายังภูมิลำเนาก่อนเปิดศูนย์ดูแลและกักตัวที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะนี้ทางสาธารณสุขแต่ละพื้นที่และ อสม.ได้เข้าไปแนะนำ พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้มีการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจยืนยันทุกวันและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนกลุ่มผีน้อยกลุ่มล่าสุดที่เพิ่งเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 242 คน ที่ถูกส่งไปกักตัวที่ศูนย์ดูแลและกักตัวของกองทัพเรือที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นั้น ในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.63) จะมีการส่งตัวผีน้อยกลับภูมิลำเนาทั้งหมด ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการกักตัวและดูแลในภูมิลำเนาของตนเอง ซึ่งในจำนวนนั้นมีคนจังหวัดสระแก้วรวมอยู่ด้วยอีก 1 คน คาดว่า จะเดินทางถึงพื้นที่ จ.สระแก้วในช่วงบ่าย โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดจะเข้าพูดคุยเรื่องขั้นตอนการรับและขั้นตอนการกักตัวที่บ้านด้วย
ภาพ/ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว