หม่อมเต่า รมว.แรงงาน คิกออฟโครงการจัดทำแฟ้มนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์สมุทรสาคร
1 min readรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการจัดทำแฟ้มนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร เป็นการยกระดับการให้บริการประชาชนเข้าถึงหลากหลายช่องทาง และเป็นกลไกลสำคัญในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของกระทรวงแรงงานให้ขับเคลื่อนไปสู่ Thailand 4.0 โดยตั้งเป้าไว้กว่า 9 แสนแฟ้ม ในสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ตอบโจทย์รัฐบาลดิจิทัล
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น. หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการจัดทำแฟ้มนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการนั้น หม่อมราชวงศ์จัตุมงคลฯ ได้มอบเจลล้างมือ ให้แก่ผู้ประกันตนที่มาใช้บริการที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากนี้หลังจากที่ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ยังได้มีการมอบเงินกับของที่ระลึกให้แก่ผู้ประกันตนที่ต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม,ผู้ประกันตนกรณีคลอดบุตร และ บุตรของผู้ประกันตนกรณีเสียชีวิต
หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ด้วยสำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญ และใส่ใจในแนวนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงแรงงาน และนโยบายสำคัญที่มอบผู้บริหารกระทรวงแรงงานให้ช่วยกันพัฒนางานให้มีการยกระดับการให้บริการประชาชนให้ดีที่สุด เพื่อให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไป จึงได้ดำเนินโครงการจัดทำแฟ้มนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพัฒนาระบบการปฏิบัติราชการจากการใช้เอกสารหลักฐานที่เป็นกระดาษสู่เอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงานประกันสังคมตั้งเป้าไว้กว่า 9 แสนแฟ้ม โดยในวันนี้ก็มีการเปิดการจัดทำพร้อมกันทั่วประเทศในหน่วยงาน ที่จะเป็นกลไกลสำคัญในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของกระทรวงแรงงานให้ขับเคลื่อนไปสู่ Thailand 4.0
นอกจากนี้ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้ให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายอีกว่า ในส่วนประเด็นของการให้ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้กับนายจ้าง และผู้ประกันตน ทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39 เพื่อช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ เชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เรื่องนี้ทางคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบในหลักการให้ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้กับนายจ้างและผู้ประกันตน ทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39 โดยนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 ปัจจุบันจ่ายฝ่ายละ ร้อยละ 5 ของค่าจ้าง ลดเหลือฝ่ายละ ร้อยละ 4 ของค่าจ้าง สำหรับผู้ประกันตนเองโดยสมัครใจมาตรา 39 จากปัจจุบันจ่าย 432 บาทต่อเดือน เป็นจ่าย 336 บาทต่อเดือน การลดอัตราเงินสมทบดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับแต่งวดค่าจ้างประจำเดือนมีนาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2563 ซึ่งก็รอเพียงการสรุปรายงานแล้วส่งมาให้ตนเซ็นอนุมัติเท่านั้น และการปรับลดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ในช่วงวิกฤติหลายๆ ปีที่ผ่านมา
ขณะที่นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานก็กล่าวว่า การจัดทำแฟ้มนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ เป็นโครงการหนึ่งที่สำนักงานประกันสังคม มุ่งหวังจะปฏิรูประบบและวิธีการปฏิบัติราชการโดยใช้เอกสารหลักฐานที่เป็นกระดาษสู่ความทันสมัยบนข้อมูล และหลักฐานเชิงประจักษ์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลที่เรียกว่า “แฟ้มอิเล็กทรอนิกส์” คือ ข้อมูลนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่อยู่ในแฟ้มนายจ้างทั้งประเทศ 926,183 แฟ้ม จะถูกจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคมทุกคนสามารถเข้าใช้เพื่อให้บริการนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนทั่วไป ได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว สมบูรณ์ ครอบคลุมทุกรายละเอียด ในการอำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 6 การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทำพิธีเปิดโครงการจัดทำแฟ้มนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์ ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยังได้เดินทางไปที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service (OSS) จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามการปฏิบัติงานและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานการต่อใบอนุญาตให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติที่ใบอนุญาตทำงานสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 – 30 มิถุนายน 2563 รวมถึงผู้มารับบริการที่ศูนย์ฯ ด้วย ซึ่งขณะนี้นับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562 – วันที่ 11 มีนาคม 2563 ได้ดำเนินการให้กับแรงงานแล้วจำนวน 54,009 คน จากเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 124,000 คน ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสาคร ก็เชื่อมั่นว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 อย่างแน่นอน