อดีต ผช.ผญบ.สุดเอือมหลานชายแฝดน้อง ยิงดับคาบ้าน หลังเมื่อสิบปีก่อน แฝดพี่ก็ถูกลุงยิงดับเช่นกัน

วันที่ 13 มีนาคม 2563 เวลา 08.20 น. ร.ต.อ.จตุพร สอนวิทย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 10 ม.1 ซอยกระแชง5 ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงพร้อมด้วยนายไวพจน์ เอี่ยมสอาด นายก อบต.กระแชง พ.ต.ท.วสันต์ คงนิล รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.นักรบ ชอบทำทาน สว.จร. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ปลูกอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีห้องแบ่งเป็นสัดส่วนจำนวน 4 ห้องนอน ภายในห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าติดแม่น้ำ พบศพนายสุรศักดิ์ บัวหลวง หรือ”หนึ่ง” อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่หลังที่เกิดเหตุ สภาพศพนอนลักษณะคว่ำหน้าใกล้ประตูและข้างเตียงนอน จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด.38 เข้าที่ตามร่างกายจำนวน 4 นัด โดยที่ข้อมือขวา 1 นัดทะลุ ต้นคอ 1 นัดกระสุนฝังใน ต้นขาซ้าย 1 นัดทะลุ หน้าอกขวา 1 นัดกระสุนฝังใน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฯจึงมอบศพให้มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนมือปืนรายนี้คือนายสุทัศน์ บัวหลวง อายุ 68 ปี อดีต ผช.ผญบ.ม.1 ต.กระแชง ซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน และเป็นอาของของผู้ตาย รอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุโดยภายในรังเพลิงยังมีกระสุนเหลืออีก 2 นัดที่ยังไม่ได้ใช้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพักทันที

เบื้องต้นจากการสอบถาม น.ส.กนกพรรณ บัวหลวง อายุ 60 ปี เป็นอาของผู้เสียชีวิตและเป็นน้องสาวคนก่อเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่กันแบบพี่ๆน้องๆรวมทั้งนายสุรศักดิ์ฯผู้ตายซึ่งเป็นหลานชาย เนื่องจากเป็นลูกของพี่ชายตนที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งอยู่กันคนละห้อง โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกับผู้ตายนอนอยู่บ้าน พอตกกลางดึกที่ผ่านมาตนได้ยินเสียงนายสุรศักดิ์ฯ หลานชายกลับมาจากข้างนอก และเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันกับนายสุทัศน์ฯ ผู้เป็นอา แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจเพราะบ่อยครั้งที่หลานชายเมาเข้าบ้านทีไรมักจะมาทะเลาะกับนายสุทัศน์ฯเป็นประจำ จนกระทั่งช่วงเช้า ตนได้ยินคล้ายเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงรีบไปดูก็พบว่านายสุรศักดิ์ฯหลานชายนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน ส่วนคนที่ก่อเหตุก็คือพี่ชายตนคือนายสุทัศน์ฯ ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนรอมอบตัวกับตำรวจ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่าเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าสาเหตุในครั้งนี้ อาจมาจากที่ผู้ตายซึ่งก่อนหน้านี้มีอาชีพขับรถบรรทุก จากนั้นก็หันมาขับวิจ จยย.รับจ้าง วินวัดไกเตี้ย อยู่แถวบ้าน และเป็นคนชอบดื่มเหล้า และทุกครั้งที่เมาก็มักจะพาลหาเรื่องคนในบ้านชอบบ่นเอะอะโวยวาย และชวนทะเลาะเป็นประจำ จนทุกคนต่างเอือมระอา จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายกลับมาจากกินเหล้ากับเพื่อนๆและมาถึงบ้านก็มีปากเสียงกันกับนายสุทัศน์ฯ และไม่นานก็เลิกรากันไป ต่อมาในช่วงเช้ามืดก็มีปากเสียงทะเลาะกับนายสุทัศน์ฯอีก จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

สำหรับประวัติผู้ตาย ก่อนหน้านั้นมีฝาแฝดซึ่งเป็นแฝดผู้พี่ชื่อ “หน่อง” เมื่อร่วม 10 ปีที่ผ่านมาแฝดพี่ก็มีนิสัยเหมือนกับแฝดน้อง โดยเวลาเมามักจะชอบหาเรื่องกับญาติ จนกระทั่งมีปากเสียงกับลุงแท้ๆซึ่งเป็นพี่ชายพ่อของฝาแฝด ก่อนแฝดพี่จะถือมีดบุกเข้าไปในบ้านลุงเพื่อจะทำร้ายแต่ถูกลุงยิงสวนกลับมาเสียชีวิตคาบ้านลุงซึ่งบ้านอยู่ใกล้ๆกัน และมาวันนี้แฝดน้องก็มาถูกอาแท้ๆยิงตายคาบ้านเช่นกัน สำหรับนายสุทัศน์ฯ ผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น และส่งให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กระทรงยุติธรรม ทำการเก็บคราบเขม่าดินปืนและเก็บอาวุธปืนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน