สื่อบุก!.ถามผู้ว่าฯปทุมธานี กรณีเรื่องของนางสุดา ทองวิลัย รองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง
1 min readสื่อมวลชนบุกถามผู้ว่าจังหวัดปทุมธานี กรณีเรื่องของนางสุดา ทองวิลัย รองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และเรื่องขอโอนย้ายปลัดคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทนปลัดคนเดิมที่เกษียณอายุ
วันนี้ (21 พ.ย.2562)เวลา10.00น.ณ ที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี
สื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ติดตามกรณี เรื่องของ นางสุดา ทองวิลัย รองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวงที่มีความขัดแย้งกับสมาชิกสภาเทศบาลและยังถูกสอบสวนวินัยร้ายแรงฐานไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของ กทจ. จ.ปทุมธานี
เพราะทราบว่าวันนี้มีการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดประทุมธานี ณ ห้องประชุมราชสีห์บัวหลวง มีวาระการประชุมเกี่ยวกับการตั้งกรรมการสอบวินัยรองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง ภายหลังจากการประชุมเสร็จ ทางสื่อเข้าไปสอบถามข้อมูลกับ นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เกี่ยวกับเรื่องการตั้งกรรมการสอบวินัย นางสุดา ทองวิลัยรองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง
แต่ทางด้านหน้าห้องรองผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิเสธที่ตอบคำถามซึ่งให้ไปสอบถามกับ ป.แจ็ค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นเลขาในที่ประชุม สื่อมวลชนจะได้สอบถาม ป.แจ็ค ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับเรื่องดังกล่าวเพียงบอกว่าให้รอผลสรุปก่อนตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลอะไรได้ ต้องรอมติในที่ประชุมของคณะกรรมการ
คณะสื่อมวลชนจึงได้ไปสอบถามว่าที่ร้อยตรี ขรรค์ไชย ทันทิมา เกี่ยวกับประเด็นที่สื่อมวลชนตั้งข้อสงสัยว่า
เรื่องที่รองปลัดสุดาถูก กทจ.ร้องผิดวินัยร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง กทจ.นั่นไม่ทราบว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการดำเนินการเป็นอย่างไร
และเหตุใดจึงไม่ลงมติให้โอนย้ายปลัดคนใหม่และไม่เห็นชอบให้นางจุฑารัตน์ อดีตปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวงใช้อำนาจบริหารงานบุคคลตามที่ เทศบาลเมืองคลองหลวงได้เสนอมา ทั้งๆที่กฎหมายวิปกครองมาตรา 41 วงเล็บ 4 และหนังสือสั่งการจากส่วนกลางให้สามารถให้ความเห็นชอบได้เลย
ส่วนการประชุมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 62ที่ผ่านมา เหตุใด ให้ความเห็นชอบให้นางจุฑารัตน์ ที่เป็นอดีตปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง ที่ได้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 62 สามารถใช้อำนาจนายกเทศบาลเมืองคลองหลวงในการรับโอนพนักงาเทศบาล รายอื่นอนุญาตให้พนักงานลาออกได้ทั้งๆที่ทราบว่านางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรีได้พ้นจากตำแหน่งไปตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 และเหตุใดไม่สามารถรับโอนปลัดเทศบาลคนใหม่ได้จากคำสั่งนี้
ซึ่งว่าที่ร้อยตรี ขรรค์ไชย ทันธิมา ท้องถิ่นจังหวัดได้ชี้แจงว่า
กรณีที่มีการประชุมในวันที่ 25 ของปลัดจุฑารัตน์เนื่องจาก เป็นขั้นตอนของของการปฏิบัติราชการถึงแม้ท่านจะเกษียณไปแล้ว แต่ก็มีหนังสื่อของเทศบาลเมืองคลองหลวง ลงวันที่ 30 กันยายน 2562 เสนอเรื่องเข้ามาให้พิจารณาดำเนินการในช่วงวันที่ 30 กันยายน2562 เนื่องจากทางจังหวัดได้มีการประชุม ก.ไปแล้ว ในวันที่ 25 กันยายน 2562 ดังนั้นเรื่องที่รับเข้ามา เราต้องเอาเข้าประชุมในเดือนถัดมา จึงนำเข้ามาประชุมในวันที่ 25 ตุลาคม 2562
สื่อมวลชนได้สอบถามเพิ่มเติมว่า ระหว่างการให้รองปลัดสุดาทำหน้าที่ เป็นรองปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่ปลัด ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรีคลองหลวงพร้อมกันนั้น ซึ่งไม่มีใครมาถ่วงดุลอำนาจ กับการโอนปลัดเทศบาลคนใหม่มาแทนตำแหน่งที่ว่างอย่างไรน่าจะเกิดความโปร่งใสในการบริหารและตรงตามหลักธรรมาภิบาลมากกว่ากัน
ว่าที่ร้อยตรีขรรค์ไชย ทันทิมา ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า
กรณีดังกล่าวทาง กทจ.ทำตามระเบียบกฎหมายคำสั่ง คสช.เป็นหลักในการทำงาน คำสั่ง คสช.มีอำนาจทำได้ มีระเบียบกฎหมายที่ให้อำนาจและปฏิบัติตามระเบียบหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องก็เป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อปลัดคนเดิมเกษียณอายุราชการไป คนที่ต้องมารักษาราชการแทนปลัดคือรองปลัดรอง กรณีไม่มีนายกก็ให้รองปลัดรักษาราชการแทนปลัดปฏิบัติหน้าที่นายกก็เป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า มีข่าวหนาหู ว่ามีการวิ่งเต้น เพื่อล้มคดีอาญาและวินัยร้ายแรงที่รองปลัดสุดาฝืนมติ กทจ.ใช่หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วการสอบสวนก็ยังไม่เริ่มต้นมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผิดขั้นตอนเพื่อสร้างประเด็นในการสอบสวนให้เกิดความล่าช้าจริงหรือไม่
และเรื่องปลัดคนที่ทำเรื่องโอนมาอยู่เทศบาลคลองหลวงได้ฟ้อง กทจ.16 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริต กรณีไม่ปฏิบัติตามความเห็นชอบในการรับโอนและไม่เห็นชอบ ที่ปลัดปฏิบัติหน้าที่นายกใช้อำนาจนายกเทศมนตรีตามกฎหมาย วิปกครองมาตรา 41 วงเล็บ 4 และหนังสือสั่งการจากส่วนกลางเป็นจริงหรือไม่หากเป็นการใช้อำนาจไม่ชอบขอทราบว่า กทจ.จะรับผิดชอบอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ซึ่งเรื่องดังกล่าวทั้งสองเรื่อง ทางด้านว่าที่ร้อยตรีขรรค์ไชย ทันทิมาได้ ปฏิเสธว่าไม่มีการวิ่งเต้นแต่อย่างใดส่วนการที่มีการ ฟ้อง กทจ.ทั้ง 16 คนที่ศาลคดีทุจริตนั้น ตนไม่ทราบเรื่องเลย
ส่วนเรื่องที่สื่อมวลชนสงสัยว่าเหตุใด กทจ.ไม่รับโอนและไม่ให้ความเห็นชอบให้ปลัดใช้อำนาจนายกตามที่เทศบาลเมืองคลองหลวงเสนอมา กทจ.ใช้ อำนาจตามกฎหมาใดเพราะการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายมหาชนที่ว่า ไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ จึงขอทราบว่า กทจ.ใช้อำนาจกฎหมายใด
ว่าที่ร้อยตรีขรรค์ไชย ทันทิมาชี้แจงว่า
ต้องเรียนนี้ก่อนว่าอำนาจในการโอนอำนาจของผู้บริหารนายก นายก อบต.นายกเทศมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกโดยแท้ยกเว้นกรณีที่ไม่มีนายก นายกนายกถูกสั่งพัก นายกลาออก ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกก็ต้องใช้อำนาจของนายกในการที่จะทำเรื่องการบริหารบุคคล ของการโอน ของการย้าย ตามหลักเกณฑ์ระเบียบกฎหมายหรือคำสั่งคสช.ที่ให้อำนาจ ก.เข้ามามีอำนาจในการที่จะให้ความเห็นชอบในการโอนหรือรับโอนได้ เช่นกรณีนี้ ไม่มีนายกปลัดหรือรองปลัด จะใช้อำนาจของนายกในการโอนหรือรับโอนก็ต้องมาขอความเห็นชอบ ก.ก่อนว่าจะใช้อำนาจว่าจะโอนใคร เมื่อ ก.เห็นชอบชอบ ให้ใช้อำนาจนั้นแล้วเนี่ยคนที่เป็นปลัดหรือรองปลัดซึ่งทำหน้าที่นายกถึงจะไปโอนรับโอนได้ คือมาขอใช้อำนาจ ก.ก่อน ซึ่งใช้คำสั่ง คสช.ที่ 85/2560
ส่วนเรื่องในการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงของ นางสุดา รองปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวงนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13:30 นที่ศาลากลางจังหวัด หลังจากประชุมเป็นที่เรียบร้อยจะมีมติภายใน 45 วันเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น
Loading...