รวบ 4 โจ๋ ยิง 3 วัยรุ่นเจ็บ อ้างถูกให้ของลับ ตำรวจตั้งข้อหาหนัก พยายามฆ่า

เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 27 มีนาคม 2563 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผกก.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.ธนนท์ ล้นเหลือ รอง.ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน และตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ร่วมกันก่อเหตุพยายามฆ่าผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ประกอบด้วย นายฐิติพงษ์ หรืออิ้ง ดีสว่าง อายุ 19 ปี,นายกฤตัชญ หรือตั้ม สงวนกลิ่น อายุ 22 ปี ,นายเมธา หรือเป้ เหล็งบำรุง อายุ 19 ปี และนายบูรพา หรือบอส ภักดีเสน่หา อายุ 19 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนลูกโม่ 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็ก สีแดง กับ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนีอีก 2 คัน

พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่า ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อน แต่ที่ก่อเหตุยิงเพราะอารมณ์ชั่ววูบเนื่องจากถูกกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้ของลับ โดยในคืนวันเกิดเหตุวันที่ 21 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 01.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนเพชรเกษม จนถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ (อ้อมน้อย) ก็ถูกกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บตะโกนด่าทอให้ของลับแล้วขี่รถหนี ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาโมโหจึงได้ขับรถติดตามไปตั้งแต่บริเวณเลยปากทางเข้าโรงพยาบาลวิชัยเวช (อ้อมน้อย) ไปเล็กน้อย ต่อเนื่องบนถนนเพชรเกษมปากทางเข้าโรงพยาบาลมหาชัย 2 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมีนายบูรพา หรือบอส ฯ กับ นายฐิติพงษ์ หรืออิ้ง ฯ ใช้อาวุธปืนคนละกระบอกยิงใส่กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บไปคนละ 2 นัด รวม 4 นัด แล้วก็แยกย้ายกันหลบหนีไปหลบซ่อนตัวที่ต่างจังหวัด จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ต้องทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนก่อน โดยอาการล่าสุดขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 2 คน เหลืออีก 1 คนยังอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร”ซึ่งก็จะได้ส่งตัวไปดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป