ศรีสะเกษ ผู้ว่าลุยฆ่าโควิด-19 ฉีดพ่นยาล้างตลาดสดกลางเมือง คุมเข้มประชาชนที่กำลังทะลักเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน (มีคลิป)
1 min readศรีสะเกษ ผู้ว่าลุยฆ่าโควิด-19 ฉีดพ่นยาล้างตลาดสดกลางเมือง คุมเข้มประชาชนที่กำลังทะลักเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เตือนให้ปฏิบัติตามกฎกติกาการป้องกันการแพร่ระบาด มุ่งเน้นชุมชนในการเฝ้าระวังคนที่เข้ามาในพื้นที่จะต้องถูกกักกัน
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 1 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตลาดที่ตั้งอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัด จ.ศรีสะเกษ นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ นายสมพร จึงศิรกุลวิทย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ อส.จ.ศรีสะเกษ ออกทำการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้พ่นยาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ทั้งบริเวณแผงขายสินค้า เขียงหมู ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด และร้านขายอาหาร รวมทั้งล้างพื้นภายในตลาดสดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้สวมชุดป้องกันเชื้อโรค สวมรองเท้าบูธ และสวมหน้ากากใสออกตระเวนพ่นยาฆ่าเชื้อโรค และเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตนเอง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว จนสะอาดเรียบร้อย ซึ่งบรรดาพ่อค้า แม่ค้าต่างพากันประทับใจและชื่นชมที่เห็น ผวจ.ศรีสะเกษ ออกลุยพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตนเอง ทำให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยที่ได้มาค้าขายสินค้าอยู่ภายในตลาดแห่งนี้
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้เทศบาลเมืองศรีสะเกษได้จัดให้มีการล้างตลาดสดเทศบาล 1 ตนจึงได้นำปลัดจังหวัด นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ และคณะ มาร่วมในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ไม่ให้กระจายไปสู่ประชาชนชาวศรีสะเกษ ส่วนการที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาถึง 8 รายแล้วนั้น ตนได้เตรียมใช้ยาแรง โดยมุ่งเน้นไปที่สถานที่ที่มีความเสี่ยง ได้สั่งให้มีการขยายเวลาในการปิดดำเนินการให้เร็วขึ้น และจะเพิ่มความเข้มไปที่ชุมชนคือหมู่บ้านต่าง ๆ ในการเฝ้าระวังคนที่เข้ามาในพื้นที่จะต้องถูกกักกัน ให้เชื่อฟังในมาตรการต่าง ๆ หากใครไม่เชื่อฟังก็คงจะต้องใช้วิธีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเคยมีกรณีตัวอย่างมาแล้ว ซึ่งศาล จ.ศรีสะเกษ ได้สั่งลงโทษ ซึ่งในกรณีนี้ก็อยากจะขอความร่วมมือว่า เราไม่รู้ว่าเป็นคนกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เมื่อเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ก็ให้เชื่อฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลตรงนี้ให้ครบ 14 วัน
ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของพี่น้องเราที่อยู่ตามแนวชายแดนขณะนี้กำลังมีการทะลักเข้ามาในเขต จ.ศรีสะเกษ ก็มีการดูแลให้เข้าสู่ระบบ คือ จะต้องกักตัว 14 วัน ก็ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือในส่วนนี้ด้วย เพื่อจะได้เป็นการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เคสทั้ง 8 เคสที่มีการติดเชื้อก็ล้วนแต่ติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ทั้งสิ้น จะทำอย่างไรที่จะทำให้บ้านเราคุมอยู่ในพื้นที่บริเวณจำกัด ไม่ให้บุคคลเหล่านี้ไปแพร่เชื้อที่อื่น นั่นคือสิ่งที่ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานให้เร็ว เพื่อที่จะไม่ให้มีการขยายวงกว้างออกไปอีก
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ
