ศรีสะเกษ พายุพัดถล่ม 7 อำเภอบ้านเรือนพังเสียหาย 73 หลัง
1 min readศรีสะเกษ พายุพัดถล่ม 7 อำเภอบ้านเรือนพังเสียหาย 73 หลัง โดยที่ อ.พยุห์ ม.17 ต.พรหมสวัสดิ์ ฟ้าผ่าโคตาย 6 ตัว ปภ.เร่งประสาน อบต.ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนชาวบ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ได้เกิดวาตภัยในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งสิ้น 7 อำเภอด้วยกันคือ อ.ขุขันธ์ อ.ภูสิงห์ อ.โนนคูณ อ.พยุห์ อ.ไพรบึง อ.ขุนหาญ และ อ.เบญจลักษ์ ปรากฏว่าได้ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายบางส่วนรวมจำนวนทั้งสิ้น 73 หลัง มียุ้งข้าว/โรงเรือน/คอกสัตว์เสียหายบางส่วนรวม 18 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน 73 ครัวเรือน ดังนี้คือ อ.ขุขันธ์ ที่ ม.1,2,3 ต.ปรือใหญ่ ม.6,9 ต.โสน และ ม.2 ต.ตะเคียน ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 6 หลัง ยุ้งข้าวโรงเรือน/คอกสัตว์บางส่วนรวม 5 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 11 ครัวเรือน อ.ภูสิงห์ ที่ ม.1,11,18 ต.ห้วยติ๊กชู ยุ้งข้าว โรงเรือน คอกสัตว์ได้รับความเสียหายบางส่วนรวม 4 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน 4 ครัวเรือน
นายบุญประสงค์ เปิดเผยต่อไปว่า ที่ อ.โนนคูณที่ ม.5,10,16 ต.หนองกุง ทำให้บ้านเรือน ยุ้งข้าว โรงเรือนคอกสัตว์เสียหายบางส่วนรวม 7 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน 7 ครัวเรือน อ.พยุห์ ที่ ม.17 ต.พรหมสวัสดิ์ ฟ้าผ่าโคตาย 6 ตัว ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน 1 ครัวเรือน อ.ไพรบึง ม.11,9 ต.สุขสวัสดิ์ ม.3 ต.สำโรงพลัน ม. 5,6 ต.ปราสาทเยอ และ ม.9,11, ต.ไพรบึงทำให้บ้านเรือนได้นับความเสียหายบางส่วน 1 หลัง โรงเรือน/คอกสัตว์ได้รับความเสียหายบางส่วน 7 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 7 ครัวเรือน อ.เบญจลักษ์ ม.4 ต.หนองงูเหลือม ม.7 และ ม.9 ต.หนองฮาง ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 21 หลัง คอกสัตว์ 7 หลัง และที่ อ.ขุนหาญ ม.2,3,14 ,18 ต.บักดอง ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 40 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 40 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
นายบุญประสงค์ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชนนั้น ตนได้ประสานงานกับ อบต.ท้องที่ที่เกิดเหตุ ให้เร่งเข้าไปสำรวจความเสียหาย เพื่อจะได้เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือน โรงเรือนต่าง ๆ ตามระเบียบของทางราชการโดยเร่งด่วน ให้สามารถใช้การได้ดีเช่นเดิมต่อไป
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ