พ่อเมืองศรีสะเกษปล่อยแถวระดมยกระดับรับ “เคอร์ฟิว” ป้องกัน COVID -19
1 min readเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) โดยมี นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พล.ต.ต. สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ รองผอ.รมน.จ.ศรีสะเกษ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่อำเภอเมือง ศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอพยุห์ อำเภอวังหิน ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ รองปลัดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองศรีสะเกษที่ 3 และส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีปล่อยแถวสนธิกำลังทุกภาคส่วนในการปล่อยแถวรับ “เคอร์ฟิว” ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในครั้งนี้
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่า สถานการณ์ของประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามลำดับ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 และได้มีข้อกำหนดออกตามความ ในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 (ฉบับที่ 1) และ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) รัฐบาลยกระดับออกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้น มีสาระสำคัญ คือ ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นตามที่กำหนดไว้ จึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอทั้ง 22 อำเภอปฎิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดปล่อยแถวตรวจตามมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นตามที่กำหนดไว้ โดยเน้นการปฏิบัติดังนี้ ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นตามที่กำหนดไว้ โดยเน้นการปฏิบัติดังนี้
1. กวดขันจับกุมการกักตุนสินค้า จำหน่ายสินค้าเกินราคาหรือสินค้าไม่ได้มาตรฐาน
2. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่
3. ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางที่สำคัญในพื้นที่ เพื่อป้องปรามการเดินทางออกจากเคหสถานของประชาชนนอกเวลาที่กำหนดไว้
ภายหลังปล่อยแถวได้ไปร่วมตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดสกัดหน้าปั๊มปตท ชุมชนโนนสำนัก รวมถึงร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มด้วย เพื่อให้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมี ประสิทธิภาพ
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ