นราฯเตรียมความพร้อม จัดสถานที่กักตัวแรงงานไทยในมาเลย์กลับบ้าน (มีคลิป)
1 min readสำหรับการเตรียมความพร้อมแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการคัดกรอง เพื่อรองรับคนไทยที่ตกค้างอยู่รัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ที่มีกำหนดการผ่อนปรนอนุญาตให้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยผ่านด่านพรมแดน 5 แห่ง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ด่านพรมแดนเบตง จ.ยะลา ด่านพรมแดนวังประจัน และด่านพรมแดนท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล และด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในวันที่ 18 เม.ย. 63 ที่จะถึงนี้ โดยด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จะอนุญาตให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย เดินทางเข้าประเทศเพียงวันละ 100 คนเท่านั้น ด้วยการอนุญาตผ่านสถานกงสุลและสถานทูต พร้อมใบรับรองแพทย์ที่ผ่านจากตรวจจากสถานโรงพยาบาลหรือคลีนิกที่เชื่อถือได้
ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส และนายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส จึงได้แยกย้ายกันลงลงพื้นที่เตรียมความพร้อมจัดสถานที่รองรับกลุ่มคนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซียที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ไว้ 4 แห่ง คือ 1.อาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.เมืองนราธิวาส 2. อาคารการกีฬาและท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.นราธิวาส 3. อาคารโรงยิมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 และ 4. โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ ซึ่งสามารถรองรับบุคคลถูกกักตัวและเข้าทำการรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ จำนวนกว่า 300 คน
ซึ่งจะมีมาตรการคัดกรองกลุ่มบุคคลแยกอาการออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. กลุ่มสีแดงซึ่งมีอุณหภูมิร่างกายสูง จะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ 2. กลุ่มสีเหลืองซึ่งมีอาการแสดงออกส่อต่อการติดเชื้อ และ 3. กลุ่มสีเขียวซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องถูกกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ส่วนกลุ่มคนไทยที่ผ่านการคัดกรองไม่มีอาการหรือปกติ ถ้าเป็นคนมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ยะลาและปัตตานี ก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของแต่ละจังหวัด เดินทางมารับตัวเพื่อไปกักตัวดูอาการของแต่ละจังหวัดที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งสถานที่ทั้ง 4 แห่ง ทางจังหวัดนราธิวาสคาดว่ามีปริมาณเพียงพอที่รองรับคนไทยซึ่งมีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางจังหวัดนราธิวาส ก็ยังได้เตรียมสถานที่ไว้เพิ่มเติม เพื่อกักตัวคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย หากมีจำนวนปริมาณเดินทางกลับภูมิลำเนามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ