ตำรวจจับปรับคนไทยลอบเข้าเมืองวันที่ 2 โดยผ่านด่านโก-ลก 300 คน (มีคลิป)
1 min readสำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการผ่อนปรนให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในวันที่ 2 พบว่า หลังจากที่ทางด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ได้ปิดทำงานตามเวลากำหนดในเวลา 12.00 น.ของทุกวัน จรดถึงวันที่ 30 เม.ย. 63 ที่จะถึงนี้
และในเวลา 14.00 น. ทางการประเทศมาเลเซีย ก็ได้ปล่อยคนไทยที่อาศัยอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย จำนวน 300 คน โดยแยกเป็นบุคคล 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1. มีเอกสารหลักฐานหนังสือเดินทางเข้าเมืองถูกต้องตามกฏหมาย แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตสถานทูต หรือ สถานกงสุล ในการผ่อนปรนเดินทางเข้าประเทศ ตามระเบียบที่ได้กำหนดไว้ ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และกลุ่ที่ 2. กลุ่มที่ไม่มีหนังสือหลักฐานเอกสารใดๆ ที่ได้เดินทางมารวมตัวกันอย่างเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันนี้ หลังจากที่ไม่สามารถใช้ช่องทางข้ามธรรมชาติเล็ดรอดข้ามแดน เนื่องจากตลอดแนวริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 48 และชุดป้องกันชายแดนที่ 3 ได้กระจายกำลังกันเดินลาดตระเวน และปฏิบัติหน้าประจำที่จุดช่องทางข้ามธรรมชาติ จนกลุ่มคนไทยเหล่านี้ไม่สามารถที่จะลักลอบเดินทางข้ามกลับไปยังภูมิลำเนาได้
ซึ่งการปล่อยคนไทยกลุ่มนี้กลับภูมิลำเนายังประเทศไทย ทางการประเทศมาเลเซียได้มีการประสานผ่านนายจักกฤช อุเทนสุต นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก และ พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส เพื่อหามาตรการในการคัดกรองกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ ที่ได้เดินทางมาจากพื้นที่กลุ่มเสี่ยง ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทางเจ้าหน้าที่ไทยได้มีการคัดกรองเช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับจากการขออนุญาตจากสถานฑูตและสถานกงสุล ตามกระบวนการคัดกรอง 3 จุด 5 ขั้นตอน และแยกเป็นกลุ่ม 3 สี คือ สีแดงมีอาการส่อติดเชื้อ สีเหลืองเดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาดและสีเขียวไม่ได้มาจากพื้นที่ระบาดแถมไม่มีอาการแสดงส่อติดเชื้อ และเมื่อผ่านกระบวนการต่างๆก่อนที่จะส่งตัวไปกักดูอาการ 14 วัน ตามภูมิลำเนาของแต่ละบุคล เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท โดยในระยะเวลา 2 วัน หลังจากที่ได้มีการผ่อนปรนให้คนไทยที่ตกค้างในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ได้ขออนุญาตจากสถานฑูตและสถานกงสุลเดินทางกลับภูมิลำเนาถูกต้องตามกฏหมาย วานนี้มีคนไทยที่ไม่ได้ขออนุญาตเดินทางข้ามประเทศถูกจับปรับ จำนวน 294 คน และวันนี้มีจำนวน 300 คน รวม 2 วัน มีคนไทยที่ไม่ได้ขออนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล รวม 594 คน ซึ่งคาดว่าในวันพรุ่งนี้คงมีอีกเป็นจำนวนมาก จนกว่าคนไทยที่ขออนุญาตเดินทางกลับถูกต้องตามกระบวนการจะหมดลง
ด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารมีความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางข้ามธรรมชาติ ตลอดแนวริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ที่แพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆของประเทศมาเลเซีย กลับมาแพร่ระบาดในประเทศไทย จากกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปทำงานยังรัฐต่างๆ ซึ่งหากมีการลักลอบเดินทางข้ามแดนจากช่องทางธรรมชาติ ทำให้กลุ่มคนไทยที่อยู่นอกระบบหรือไม่ได้ขออนุญาตจากสถานฑูตหรือสถานกงสุล จึงไม่สามารถเดินทางข้ามช่องทางธรรมชาติได้ หากต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา จึงมีเพียงเส้นทางเดียวคือ ต้องผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ที่ต้องยอมเปรียบเทียบปรับและต้องมีการตรวจคัดกรองโรคเข้มข้นตามกระบวนการ
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ