บุรีรัมย์ หนุ่มควบปอร์เช่เสยมอไซค์นักศึกษากระเด็นขาหักสองท่อน ชาวบ้านเผยแยกนี้เหตุเกิดบ่อยครั้ง ไร้ไฟสัญณาณจราจร วอนแก้ไข (มีคลิป)

สองสามีภรรยาควบเก๋งปอร์เช่จาก อ.สตึก จะเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ ถึง อ.บ้านด่าน มีมอเตอร์ไซค์เลี้ยวกลับรถกะทันหันเบรกไม่ทันชนอย่างจังนักศึกษาเทคนิคกระเด็นขาหักสองข้าง เจ้าตัวเผยเห็นมอเตอร์ไซค์ชั่งใจตัวเองก่อนจะหักเลี้ยวกะทันหัน ชาวบ้านเรียกแยกร้อยศพ และยากเห็นไฟแดงแห่งแรกของอำเภอ วอนติดตั้ง

วันที่ 25 พ.ย.62 ร.ต.อ ถนอมจิตร กันยายน รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านด่าน
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน สาย219 บุรีรัมย์-สตึก ต.บ้านด่าน บริเวณ 3 แยก เข้าบ้านปราสาท กลางถนนขาเข้าเมืองบุรีรัมย์ พบร่างนายธีรพงษ์ ชะเทียนรัมย์ อายุ18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่12 ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ สวมเสื้อช็อปวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ สาขาช่างยนต์ นอนอยู่กลางถนน ในสภาพขาผิดรูป เนื่องจากขาหักทั้ง 2 ข้าง อุปกรณ์การเรียนตกเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลบ้านด่าน

ห่างกันพบรถจักรยานยนต์ ยี้ห้อฮ้อนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กด 1769 บุรีรัมย์ ล้มกลางถนนฝั่งเข้าตัวอำเภอบ้านด่าน อยู่ในสภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์กระจายเกลื่อนบนพื้นถนน
และห่างไปประมาณ 300 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี้ห้อปอร์เช่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 1 บุรีรัมย์ บริเวณด้านแก้มรถข้างขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชนได้รับความเสียหายหม้อน้ำแตก

สอบถามนายศรันย์ กีรติอุไร อายุ38ปี บ้านเลขที่ 390/20 หมู่ 22 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ คนขับรถยนต์ปอร์เช่ เล่าว่าตนเองเดินทางมาจากอ.สตึก พร้อมภรรยาจะเข้าเมืองบุรีรัมย์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์ ทำท่าเหมือนชั่งใจ ตนก็พยายามชะลอรถ เมื่อเข้ามาใกล้รถจักรยานยนต์ก็เลี้ยวกลับกะทันหัน ทำให้ตนเบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนอย่างจัง จนร่างของเด็กนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคลอยตกลงจากรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสามแยกดังกล่าว เป็นจุดที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนชาวบ้านเรียกกันว่าแยกร้อยศพ สาเหตุเพราะไม่มีสัญญาณ จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาติดตั้งสัญญาณไฟ เพราะชาวบ้านอยากเห็นไฟแดงแห่งแรกของอำเภอ