ภัยแล้งขยายวงกว้าง เขื่อนป่าสักฯ เหลือน้ำอยู่ไม่ถึง ร้อยละ 15 ของความจุ ขณะที่หน่วยทหารในพื้นที่ ยังคงสลับผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนนำรถบรรทุกน้ำ ออกแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชน
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง อันเกิดจากฝนตกน้อย ทำให้หลายพื้นที่ต้องประสบภัยแล้ง ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการประกอบอาชีพทางการเกษตร โดยเฉพาะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในช่วงฤดูฝนของปีที่ผ่านมามีปริมาณฝนน้อยกว่าที่คาดการณ์ ค่าเฉลี่ยปริมาณต่ำสุดนับ ตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อน ส่งผลให้ปริมาณน้ำกักเก็บน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำล่าสุดเช้าวันนี้ มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 139.16 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับกักเก็บสูงสุดที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 14.50 ของความจุ โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมาเพียงเล็กน้อย แต่เขื่อนยังมีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำเฉลี่ยวันละ 8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยเปิดประตูระบายน้ำเพียงบางเดียวจากทั้งหมด 7 บาน เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศน์ และสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค บริโภค และโดยยังคงต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ และปลูกพื้นที่ใช้น้ำน้อย เพื่อเก็บน้ำไว้สำหรับอุปโภค บริโภค ตลอดฤดูแล้งนี้
ขณะที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ศบภ.นสศ.) ยังคงให้การสนับสนุน รถยนต์บรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร และ 10,000 ลิตร พร้อมทั้ง จัดกำลังพล จิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสตร์ กษัตริย์” จากกองพลรบพิเศษที่ 1 และ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ สลับผลัดเปลี่ยนกัน ไปรับน้ำสะอาดจากการประปาส่วนภูมิภาค สาขาลพบุรี และสาขาอำเภอบ้านหมี่ ออกแจกจ่ายน้ำ ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง น้ำดิบไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ดงพลับ ต.หนองเต่า ต.หนองทรายขาว อ.บ้านหมี่ และ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี อย่างต่อเนื่องตลอดทุกสัปดาห์ ในช่วงหน้าแล้ง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ประชาชน ตามนโยบายของกองทัพบก ในโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2563 ไปจนกว่าจะสิ้นสุดสถานการณ์ภัยแล้ง อีกด้วย
ภาพ/ข่าว สมชาย เกตุฉาย
เอกพงษ์ พรหมเรนทร์ รายงาน