ผู้เชี่ยวชาญยันโค่นไม้หวงห้ามริมถนนบ้านต้นแซะ ไม่ใช้ไม้ยางนา ยืนยันไม้ทุกท่อนยังอยู่ครบไม่มีขนย้ายออกนอกพื้นที่ (มีคลิป)
1 min readเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 นายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านจัดการและควบคุมป่า กรมป่าไม้ พร้อมด้วย คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี เจ้าหน้าที่เข้าโค่นล้มไม้หวงห้าม ริมถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 402 สาย โคกกลอย – หมากปรก บ้านต้นแซะ หมู่ 8 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังจาก แขวงทางหลวงภูเก็ต ทำหนังสือเสนอต่อ สำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 กระบี่ กรมป่าไม้ โดยกรมป่าไม้ ให้เข้าจัดการตัดดข้นต้นไม้ริมถนนจำนวน 11 ต้น จนทางเจ้าหน้าที่จาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยรักษาป่าที่ พง.2 ท้ายเหมือง หมวดทางหลวงถลาง และ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าโค่นล้ม ซึ่งในการเสนอขออนุมัติทางกรมป่าไม้นั้น ได้ระบุชนิดไม้เป็นไม้แซะ จำนวน 11 ต้น แต่กลับพบว่าเป็นชนิดไม้ยาง จึงได้ทำการบันทึกนำส่ง กรมป่าไม้
ชมรม strong จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพังงา ได้มีการยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา ให้มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ ขณะกรมป่าไม้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ไม่พบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต แต่พบว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีความชำนาญในด้านการระบุชนิดไม้ ซึ่งเป็นไม้แซะ ไม่ใช่ไม้ยางนา แต่พบว่าไม้ที่ถูกตัดเป็นไม้ยางมันหมู ทางคณะกรรมการตรวจสอบจึงได้ทำการบันทึกพร้อมเตรียมสรุปส่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ทางอธิบดีกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาลงโทษตามความเหมาะสมในกรณีนี้ต่อไป
ด้านนายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านจัดการและควบคุมป่า กรมป่าไม้ ฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า ชนิดไม้ที่ถูกตัดโค่นเป็นไม้ยางมันหมู ไม่ใช่ไม้ยางนา หรือไม้แซะ เนื่องจากเป็นการระบุชนิดไม้ยาก หากไม่มีความเชี่ยวชาญจริงๆในการขนย้าย เท่าที่ตรวจสอบพบว่า ไม้ทุกท่อนยังอยู่ครบทั้ง 19 ท่อน ยังอยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 402 สาย โคกกลอย-หมากปรก บางส่วนได้นำเก็บไว้ที่ ที่ทำการหน่วยรักษาป่า พง.2 (ท้ายเหมือง) โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดตามที่กระแสข่าวออกไป
ภาพ/ข่าว อโนทัย งานดี พังงา