อบต.คูบางหลวง ปิดหมายสั่งเจ้าของที่รื้อที่กั้นทางเข้าออกภายใน 3 วัน (มีคลิป)
1 min readผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ( 28 เม.ย. 63 ) ที่บริเวณถนนหน้าทางเข้าเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข9) ม.4 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้มีกลุ่มชาวบ้านกว่า 30 คน และกลุ่มสมาชิก อบต.คูบางหลวง สารวัตรกำนัน ต.คูบางหลวง มารวมตัวกันเพื่อขอให้เจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าว ทำการรื้อรั้วลวดหนาว เสาปูนและสิ่งกีดขวางออก เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ผ่านทางเข้าออกได้ จนทำให้ได้รับความเดือนร้อนกันเป็นจำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.สายชล โพธิ์ขอม ผกก.สภ.คูบางหลวง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาคอยเฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมกับนายวิรัตน์ พุ่มพวง ปลัด อ.ลาดหลุมแก้ว มาร่วมสังเกตการณ์
ต่อมาได้มีนายวิรัตน์ ลายลักษณ์ นายก อบต.คูบางหลวง ว่าที่ รต.สรรเพ็ชร์ หริตกุล ปลัด อบต.คูบางหลวง เดินทางมามาพร้อมเอกสารเป็นหมายมาติดไว้ที่เสารั้วลวดหนาวหน้าทางเข้าออก โดยในข้อความของเอกสารระบุว่า “ที่ ปท.72301/265 ที่ทำการ อบต.คูบางหลวง ลงวันที่ 28 เม.ย. 63 เรื่อง ให้รื้อถอนรั้วและกองวัสดุออกไปจากที่สาธารณะ เรียน คุณยานะ เต่าพาลี (เจ้าของที่ดิน) ตามที่ท่านได้กระทำการติดตั้งรั้วลวดหนาว และวางแท่นปูนกองไว้บนที่สาธารณะ อันเป็นการติดตั้ง วาง สิ่งใดๆบนถนน โดยมิได้กระทำในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือเจ้าพนักงานกำหนด ทั้งยังเป็นการติดตั้ง วาง สิ่งใดๆในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เหตุเกิดบริเวณหน้าทางเข้าเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงพิเศษหมายเลข9) ม.4 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จนส่งผลกระทบทำให้ประชานที่สัญจรได้รับความเดือดร้อนนั้น”
อาศัยอำนาจมาตรา 4 และมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติรักษษความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 เจ้าพนักงานท้องถิ่นจึงแจ้งให้ท่านรื้อถอนและกองวัสดุออกไปจากที่สาธารณะ ภายในวันที่ 1 พ.ค. 2563
อนึ่ง หากท่านประสงค์จะอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้ และท่านสามารถใช้สิทธิฟ้องศาลปกครองได้ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงแห่งการฟ้องคดี ลงชื่อนายวิรัตน์ ลายลักษณ์ นายก อบต.คูบางหลวง เจ้าพนักงานท้องถิ่น
ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า ตนมาอยู่ในเขตพื้นที่ ม.4 ต.คูบางหลวง ร่วม 10 ปี ก็เห็นถนนเส้นนี้แล้วและทุกครั้งก็จะใช้รถยนต์ขับเข้าออกเป็นประจำ โดยมีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน แต่แล้วจู่ๆก็มาพบว่ามีคนนำรั้วลวดหนาวและเสาปูนมาวางกั้นห้ามรถเข้าออก ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จึงทำเรื่องสอบถามไปยัง อบต.คูบางหลวง จึงทราบว่ามีเจ้าของที่นำมาปิดกั้นเอาไว้ จึงอยากขอให้ทางเจ้าของที่เห็นแก่ประชาชนชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย
เช่นเดียวกับนายมะหะหมัด สง่าดำ อายุ 60 ปี สารวัตรกำนัน ต.คูบางหลวง กล่าวว่าที่พื้นดินแห่งนี้ ชาวบ้านให้กันมานานแล้วมากหว่า 10 ปี โดยเจ้าของที่ดินเสียชีวิตไปแล้ว จนมาตกกับลูกหลาน และก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่ทราบถึงจุดประสงค์อะไรที่เขาต้องมาปิดกั้นโดยที่ไม่มีการมาพูดคุยหรือเจรจาให้ชาวบ้านได้รับรู้เลย
ทางด้านนายวิรัตน์ ลายลักษณ์ นายก อบต.คูบางหลวง กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้วสมัยตนยังไม่ได้เป็นนายก อบต.ฯ ที่ดินแห่งนี้ที่ใช้เป็นถนนทางเข้าออกของชาวบ้านที่มีความยาว 3 กม.เศษ ตั้งแต่ ม.3 และ ม.4 ต.คูบางหลวง โดยมีเจ้าของที่ดินร่วมกว่า 100 ราย ยกที่ดินเพื่อให้เป็นถนนสาธารณะ ด้วยวาจาต่อมาเมื่อปี 2543 จึงได้มีการให้เจ้าของที่ดินทั้งหมดมาทำหนังสือบันทึกยินยอมพร้อมนำหลังโฉนดที่ดิน สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของที่มามอบไว้ให้ทาง อบต.ดำเนินการทำถนนเป็นที่สาธารณะ จึงนำงบประมาณบางส่วนมาดูแลซ่อมแซมลงลูกรัง และชาวบ้านก็ได้ใช้กันมาตลอด แต่แล้วจู่ๆเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาตนทราบข่าวเพราะมีชาวบ้านมาร้องเรียน จึงได้ประสานแจ้งไปยังเจ้าของที่ซึ่งขอให้เปิดให้ชาวบ้านใช้ชั่วคราวไปก่อน และนัดมาเจรจากันแต่เขาไม่ยอม วันนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจึงมารวมตัวกัน ผมเลยมีหมายแจ้งไปแล้วแต่เขาไม่รับไม่รู้เพราะเหตุใด แต่ก็ให้เจ้าหน้าที่ อบต.ฯ ส่งหนังสือลงทะเบียนไปทางไปรษณีย์แล้ว ซึ่งก็ต้องว่ากันต่อไปแต่ตนได้มีคำสั่งให้รื้อถอนภายในวันที่ 1 พ.ค. 63 นี้พร้อมจะปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าทางเราจะดำเนินการได้อย่างไรต่อไป
ส่วน พ.ต.อ.สายชล โพธิ์ขอม ผกก.สภ.คุบางหลวง กล่าวว่า เบื้องต้นก็มาดูความสงบเรียบร้อยเนื่องจากเป็นช่วง พรก.ฉุกเฉิน แต่ก็เห็นว่าทุกคนมารวมตัวกันจริงแต่ก็มีการสวมแมสป้องกันเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนในเรื่องการแจ้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ที่นำรั้วลวดหนาวและสิ่งกัดขวางมาปิดกั้นนั้น ก็ต้องดูหลักฐานว่าเป็นมาอย่างไรและเป็นสิทธิ์ของเจ้าของที่หรือไม่ ส่วนทาง อบต.คูบางหลวง ก็ได้แจ้งว่าเป็นที่สาธารณะที่เจ้าของที่ดินเดิมนั้นมีการยกให้มานานกว่า 20 ปี นั้นทุกอย่างก็ต้องมาดูกันด้วยหลักฐานเอกสาร โดยจะให้ความเป็นธรรมกันทุกๆฝ่าย
ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน