แบ่งปันน้ำใจ…….มูลนิธิรัชกิจประการ-มนตรี ร่วมกับ กองทุนน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข มอบข้าวสาร ให้กับประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวน 10 ชุมชน
1 min readแบ่งปันน้ำใจ…….มูลนิธิรัชกิจประการ-มนตรี ร่วมกับ กองทุนน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข มอบข้าวสาร ให้กับประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวน 10 ชุมชน รวม 400 คน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563 เวลา 15.00 ที่ศาลาการเปรียญวัดคูหาสวรรค์ ( พระอารามหลวง ) เขตเทศบาลเมืองพัทลุง มูลนิธิรัชกิจประการ-มนตรี ร่วมกับ กองทุนน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข มอบหมายให้นายสุรัตน์ จรณโยธิน รักษาราชการแทน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง ในฐานะเลขานุการมูลนิธิรัชกิจประการ-มนตรี โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนของมูลนิธิฯ ร่วมกับพระมหาปรีชา ภูริภัทโท เลขาเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง และ นายพงศ์เทพ ประทุมสุวรรณ นายอำเภอเมืองพัทลุง ร่วมกันมอบข้าวสารคุณภาพดีให้กับประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวน 10 ชุมชน ๆ ละ 40 คน รวม 400 คน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ซึ่งการมอบข้าวสารคุณภาพดีในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ทางมูลนิธิรัชกิจประการ-มนตรีได้ส่งมอบข้าวสารคุณภาพดีให้กับพระมหาปรีชา ภูริภัทโท เลขาเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563 จำนวน 1,000 ถุง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่งพระภิกษุ-สามเณร-และประชาชน
สำหรับการมอบข้าวสารคุณภาพดีครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 63 ที่สหกรณ์การเกษตรตะโหมด ในเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ดร.นาที รัชกิจประการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานมูลนิธิรัชกิจประการ – มนตรี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานในการจัดซื้อข้าวสารกับสหกรณ์การเกษตรตะโหมด ให้กับทางมูลนิธิ รัชกิจประการ-มนตรี จำนวน 20,000 กิโลกรัม เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 โดยในการมอบข้าวสารของมูลนิธิฯในครั้งนี้มีตัวแทนผู้มารับมอบ ประกอบด้วย ตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและ อสม. ตัวแทนคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดพัทลุง และตัวแทนพระภิกษุสงฆ์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นก่อนที่จะนำมากระจายมอบให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว
โดยก่อนเริ่มกิจกรรมมีมาตรการตรวจวัดไข้และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์พร้อมสวมหน้ากากอนามัยทุกคน และมีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)