รอดมือมัจจุราช!! หวุดหวิดจากพิษโควิดและเงินช่วยรัฐทั้งไฟช้อตตัวและกระโดดจากยอดไม้สูง

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.63 พ.ต.อ. วุฒิพงษ์ สมใจ ผกก.สภ.พลูตาหลวง ได้รับเเจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนจะกระโดดต้นไม้สูงฆ่าตัวตาย จึงได้นำกำลังพร้อมประสาน นายยอดชาย ถนอมสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบ เข้าตรวจสอบและระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณชุมชนบ้านขลอด ตรงข้ามตลาดเอกธานี กม.10 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบนาย สมภพ ภูเก้าแก้ว อายุ 32 ปี เกาะอยู่บนยอดต้นมะม่วงสูงและพร้อมจะกระโดดลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ปีนขึ้นไปพร้อมคนที่อยู่ด้านล่างช่วยกันเกลี้ยกล่อมนานนับชั่วโมง จึงยอมและปีนป่ายลงมาด้วยความอ่อนเพลีย โดยมีเจ้าหน้า ที่คอยช่วยประคองลงมา

นาง สุดใจ ธงช้าง อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่กล่าวว่า ลูกชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ตกงาน ประกอบกับเงินช่วยเยียวยาของรัฐบาล 5,000 บาท ก็ไม่สา มารถทำได้ จึงไม่ได้รับเงินเยียวยาส่วนน้องสาวก็โดนไล่ออกจากงานลักษณะเดียวกัน จึงมีเพียงพ่อเท่านั้นที่ยังหารายได้อยู่ทางดียววันละ 200-300 บาท ซึ่งไม่พอเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงเกิดอา การเครียดและบ่นอยู่ตลอดเวลาว่าผมไม่ผิด

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าได้ใช้สายไฟเสียบปลั๊กหวังให้ไฟช้อตฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้เข้าช่วยเหลือไว้ทันและพยายามพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้หยุดกระทำหากลูกตายไปแล้วแม่จะอยู่กับใคร คิดว่าลูกชายจะคิดได้ แต่กลับมาปีนต้นมะม่วงสูงหวังฆ่าตัวตายอีกครั้ง ดีนะที่มีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและกู้ภัยฯ เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้อย่างหวุดหวิด ผู้เป็นแม่กล่าวทั้งน้ำตา

ภาพ/ข่าว นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก