(สระแก้ว) เพื่อความปลอดภัยจากโควิด 19 ร้านอาหารทำฉากกั้นระหว่างบุคคล เข้มมาตรการเว้นระยะห่าง ระบุลูกค้าและรายได้หายไป 50-90 % (มีคลิป)

ตรวจสอบมาตรการผ่อนคลายฯ ให้ร้านอาหาร จ.สระแก้วเปิดให้บริการได้ โดยพื้้นที่ จ.สระแก้ว ร้านอาหารต้องเข้มมาตรการเว้นระยะห่าง ทำฉากกั้นระหว่างบุคคล ระบุจำนวนลูกค้าและรายได้หายไป 50-90% เรียกร้องให้ยกเลิกเคอร์ฟิว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายหลังรัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนคลายให้ร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการได้ โดยต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างและแนวทางป้องกันตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยร้านค้าร้านอาหารสามารถเปิดขายสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ แต่ต้องนำกลับไปบริโภคที่บ้านนั้น ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจใน จ.สระแก้ว พบว่า มีร้านอาหารที่เปิดให้บริการมาแล้ว 3-4 วัน สะท้อนปัญหาและอุปสรรคที่พบโดยเฉพาะจำนวนลูกค้าที่ลดลง รวมทั้งการประกาศเคอร์ฟิว ยังเป็นอุปสรรคให้ยอดจำนวนลูกค้าและรายได้ หดหายไปมากกว่า 50-90 %

ลูกค้าของร้านอาหารเวียดนาม ระบุว่า มาตรการที่ร้านอาหารดำเนินการถือว่า ดี เพราะที่ผ่านมาเหมือนว่า พอทุกคนให้ความร่วมมือกัน ทำให้เราผ่านระลอกแรกไปได้ ถ้าทำแบบนี้น่าจะโอเค ซึ่งตั้งแต่มีมาตรการโควิด-19 เพิ่งออกมาทานอาหารนอกบ้านกันเป็นครั้งแรก หลังเก็บตัวกันอยู่กับบ้าน ซึ่งทางร้านจะให้นั่งแยกกัน ไม่ให้ใกล้ชิดกัน โดยมีฉากกั้นไว้ มีช้อนกลางและช่องว่างสำหรับแชร์อาหารกันได้เท่านั้น

นายสิทธิพัฒน์ เตียเจริญ อายุ 23 ปี ผู้บริหารรุ่นใหม่ร้านอาหารเวียดนามชื่อดัง”ยายเต็ม” ตั้งอยู่เลขที่ 10 ซอย 5 ถนนเทศบาล 17 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนคลายให้สามารถเปิดร้านได้ หลังหยุดไปเดือนครึ่งเกือบ 2 เดือน ทางร้านได้ปรับปรุงพื้นที่โดยจัดโซนสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ากลับบ้าน และนั่งทานที่ร้าน โดยทำฉากกั้นระหว่างบุคคลที่เข้ามานั่งทานอาหารในร้านอย่างชัดเจน ให้มีระยะห่างกัน 1 เมตร ก่อนเข้ามาใช้บริการต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ฉีดพ่นแอลกอฮอล์และเจลล้างมือทุกคน ซึ่งในช่วงแรกก็จะงดขายแอลกอฮอล์และการแสดงดนตรีสดไปก่อน เพื่อตัดปัญหาการดื่มสุราภายในร้านตามนโยบายของรัฐบาล

นายสิทธิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มจะให้นั่งแยกกันคนละล๊อคเพื่อความปลอดภัย โดยปิดร้านไวขึ้น จากเที่ยงคืนมาปิด 20.00 น. ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบโดยเฉพาะพนักงาน แม้จะได้รับเงินเดือนแต่ก็ให้ไม่เต็มเดือน หลังจากเปิดร้านแล้ว อย่างน้อยให้พนักงานได้ทำงานได้มีรายได้ แม้จะแค่เท่าทุนแต่ก็ยังดีกว่าหยุดไปเลย ลูกค้าและรายได้ลดลงไปมากกว่า 50 % ชัดเจน

ด้านนายธนกฤต จิตรสมบูรณ์ อายุ 33 ปี ผู้บริหารร้าน “จันทร์มณี” กล่าวว่า ทางร้านจะให้ลูกค้าล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลและบอกให้ลูกค้าล้างด้วยสบู่อีกครั้ง หลังลูกค้ากลับไปก็จะใช้แอลกอฮอล์ล้างที่โต๊ะอีกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางร้านทำได้ โดยมีหน่วยงานราชการเข้ามาแนะนำเพิ่มเติมเป็นระยะ ๆ ซึ่งที่ผ่านมา ทางร้านได้รับผลกระทบเต็ม ๆ เพราะเป็นธุรกิจท่องเที่ยว อยากให้ผ่อนปรนเพิ่มเติมโดยการยกเลิกเคอร์ฟิว เพราะร้านส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารตอนเย็น จากเคยเปิดช่วง 11 โมงถึงเที่ยงคืน ก็ต้องลดลงมาปิดก่อน 4 ทุ่ม เพื่อให้ลูกค้าได้กลับบ้านได้ ทุกวันนี้ลูกค้าเงียบ ๆ ซบเซา

“ที่ผ่านมาใช้วิธีเลิกจ้าง หรือพนักงานที่ไม่มีที่ไปจริง ๆ ก็จ้างแค่ครึ่งราคา เพราะช่วงนั้นไม่มีลูกค้าเลย แต่หลังเปิดร้านได้บ้างในช่วงผ่อนคลาย ลูกค้าก็หายไปมากเพราะไม่สามารถนั่งดื่มเหล้าได้ ลูกค้าจึงหายไปถึง 90 % และยังไม่ได้รับการเยียวยาใด ๆ เพราะอ่านตามมาตรการแล้วน่าจะไม่ได้ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นกว่านี้ ” ผู้บริหารร้าน “จันทร์มณี” กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ในช่วงที่รัฐบาลผ่อนคลายฯ มีบางพื้นที่ได้รับข้อมูลว่า ผู้ประกอบการและลูกค้าจะรู้กันโดยใช้วิธีลักลอบให้ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าตรวจหรือวางไว้ในจุดที่ไม่อยู่บนโต๊ะอาหาร เป็นต้น

ภาพ/ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว