จับ 12 เขมร ซิ่งแหกด่านหนีชนต้นไม้ สารภาพใกล้อดตายไม่มีงานทำจากพิษโควิดฯ (มีคลิป)
1 min readทหารพรานไล่ล่าจับกุมชาวกัมพูชา 12 คน ลักลอบข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีคนนำพาขับรถซิ่งแหกด่านหลบหนี ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่าจนรถยนต์ชนต้นไม้และสามารถจับกุมได้ ส่วนคนนำพาหลบหนีหลังรถประสบอุบัติเหตุ ด้านแรงงานรับสารภาพอยู่ในกัมพูชาไม่ได้แล้ว เพราะเริ่มอดอยากอย่างหนัก ตกงานไม่มีจะกินเพราะพิษโควิดฯหลังปิดชายแดนหลายเดือน ถูกเรียกค่านายหน้าสูงถึงหัวละ 3,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เดินทางไปรับตัวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 12 คน ประกอบด้วย เพศชาย 8 คน และเพศหญิง 4 คน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดเคลื่อนที่เร็ว กรมทหารพรานที่ 13 อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ติดตามไล่ล่าจับกุมได้บนถนนสายเขาฉกรรจ์-บ้านเขาจาน-บ้านหนองใหญ่ เขตติดต่อระหว่าง ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ และ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ โดยขณะเกิดเหตุรถยนต์ที่ใช้ขนแรงงาน ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุนสเปชวาก้อนสีเทา หมายเลขทะเบียน ฌพ-1565 กรุงเทพมหานคร ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับต้นไม้ข้างทาง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ ร่วมตรวจสอบจับกุมและนำแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้งหมดไปสอบสวน กระทั่งมีการตรวจสอบพื้นที่จับกุมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทราบว่า เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวอยู่ใน ม.16 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จึงประสานให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น รับไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รองสารวัตร(สอบสวน) ร้อยเวร สภ.วังน้ำเย็น เปิดเผยว่า ได้รายงานกรณีดังกล่าวให้กับ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ได้รับทราบแล้ว พร้อมกับรับตัวแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดมาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อสอบสวน เบื้องต้นแรงงานรับสารภาพว่า ได้จ่ายค่านายหน้าให้ผู้นำพาเข้ามาประมาณคนละ 3,000 บาท โดยมีคนขับรถชื่อเล่นว่า นายบอย ได้หลบหนีไปช่วงรถเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนี้ จะได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ และเรียกเจ้าของรถมาสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งติดตามตัวนายบอย ผู้นำพามาดำเนินคดี ส่วนแรงงานชาวกัมพูชา หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้น จะต้องส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการผลักดันกลับประเทศ
นายมุณี ศิลา อายุ 40 ปี แรงงานชาวกัมพูชา เดินทางมาจากเมืองโพสะ ตอนเหนือของจังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เล่าว่า เดินลักลอบเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเย็นโดยมีผู้นำพาเดินลัดเลาะเข้ามาหลบและปล่อยให้นอนกันในป่าอ้อยบริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวร บ้านเบญจขร อ.คลองหาด ตั้งแต่ช่วงสี่ทุ่ม ไปจนถึงประมาณตี 3 จะมีรถมารับและพามาแหกโค้งช่วงประมาณตี 4 หลังถูกทหารขับรถไล่ตามมาและยิงล้อรถแตกจนถูกจับกุม โดยมากันทั้งหมด 12 คน ชาย 8 หญิง 4 คน
ชาวกัมพูชา บอกอีกว่า ทุกคนที่จะเข้ามาต้องจ่ายเงินค่านายหน้าคนละ 3,000 บาท ตั้งใจจะไปทำงานที่ จ.ชลบุรี ปกติจะเข้ามาประเทศไทยตามด่านต่าง ๆ หลายครั้งแล้ว แต่ช่วงนี้เกิดสถานการณ์พิษ๋โควิดฯ ทำให้ตนเองตกงานเป็นเดือน ไม่มีเงินที่จะใช้ จึงอยากเข้ามาทำงานในประเทศไทยด้วยการลักลอบเข้ามาเพื่อจะไปหางานทำในช่วงโควิด19
ทางด้าน พ.ท.กมล เรืองนาราบ รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 13 กล่าวว่า การเข้มงวดกวดขันเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ที่ให้หน่วยป้องกันชายแดน สกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิค 19 ซึ่ง พ.อ.รณรงค์ เส็งมี ผบ.กรม ทพ.13 มอบหมายให้ ตนเองในฐานะ รอง ผบ.กรม ทพ.13 จัดกำลังพลร่วมกับชุดเคลื่อนเร็วของหน่วย จัดชุดซุ่มและตั้งด่านตรวจไม่ประจำที่ เพื่อสกัดกั้นขบวนการนำพาลักลอบแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ จนสามารถจับกุมได้เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.
ภาพ/ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว