หนุ่มกระเป๋ารถเมย์กลับบ้านมาปลูกมัน ลงแดงตายคาที่กักกัน เซ่นมาตรการเข้มห้ามขายเหล้าสกัดโควิด
1 min readบุรีรัมย์- สองพี่น้องอาชีพขับรถและกระเป๋ารถเมย์ อยู่กรุงเทพฯ กลับบ้านบุรีรัมย์หวังมาช่วยพ่อแม่ปลูกมันสัมปะหลังก่อนหน้าฝน เหมือนทุกปี เข้ากักตัว 14 วันตามมาตรการ เพียง 5 วันเกิดน็อกเสียชีวิตคาที่กักกัน กู้ภัยผวาหวั่นติดเชื้อโควิด 19 สุดท้ายคาดลงแดงเพราะเคยกินเหล้าขาวประจำ
วันที่ 23 พ.ค.63 ร.ต.อ.ณภัทร สุทธิธนากุล รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านดอนยาว ต.หัวถนน อ.นางรอง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว อยู่ห่างจากผู้คน มีเชือกกั้นรอบบ้าน มีป้ายเขียนบอกห้ามเข้าใกล้บริเวณบ้าน ทราบต่อมาบ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่กักตัว 14 วันตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ บ้านหลังนี้มากักตัว 2 คนเป็นพี่น้องกัน คือนายปัง สงครามรอด อายุ 62 ปี และนายแป้น สงครามรอด อายุ 59 ปี ทั้งสองเพิ่งกลับมาจากทำงานเป็นทั้งคนขับรถเมย์ และกระเป๋ารถเมย์ สาย 42 (เสาชิงช้า)ที่กรุงเทพฯ ผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านคือนาย นายคำปัง สงครามรอด อายุ 62 ปี
ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างไม่กล้าจะเข้าไปตรวจสอบ ต้องกลับไปเปลี่ยนชุดป้องกันโรคตามมาตรการ โดยการเก็บกู้ศพ ญาติได้อนุญาต ให้นำศพไปฌาปนกิจศพทันที โดยไม่ต้องเก็บศพไว้ เจ้าหน้าที่จึงทำตามคำที่ญาติร้องขอ เพราะเกรงจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
จากการสอบถามนายแป้น สงครามรอด อายุ 59 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเป็นคนขับรถเมย์สาย 42 ส่วนน้องชายเป็นกระเป๋ารถเมย์ แต่ละปีจะกลับมาปลูกมันที่บ้านเป็นประจำ
แต่ปีนี้เป็นช่วงที่มีโรคโควิด-19 ระบาด จึงต้องกลับมากักตัว 14 วัน ที่กระท่อม 2 คนกับพี่ชาย ตามมาตรการของคณะป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19
เมื่อเริ่มมากักตัวพี่ชายเริ่ม มีอาการอาเจียน บ่อยครั้ง ถ้ามองด้วยสายตาคือไม่ได้ดื่มเหล้าขาว ที่เคยดื่มเป็นประจำที่อยู่กรุงเทพฯ ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังห้ามไม่ให้ขายสุรา พี่ชายก็เริ่มอาการหนัก
จนผ่านการกักตัวมาได้ 5 วันคือวันนี้ พี่ชายก็น็อก ไม่หายใจไปต่อหน้า สาเหตุการเสียชีวิตของพี่ชายในครั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่าเป็นเพราะโรคโควิด 19 แต่เป็นเพราะการลงแดงที่ขาดเหล้ามากกว่า
ข่าว-ภาพ วาทิตย์ แสนธุปี จ.บุรีรัมย์