ศรีสะเกษ ชาวบ้านโวย!! 3 ปี ขุดลอกหนองเมยไม่เสร็จ ซ้ำงงหนักคันคูดินหายไปไหน เก็บน้ำไม่ได้เดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน (มีคลิป)
1 min readเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านสมอ หมู่ที่ 11 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง แหล่งน้ำสาธารณตื้นเขิน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบหนองน้ำสาธารณหนองเมย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้านสมอ มีสภาพตื้นเขิน ดินแตกระแหง ไม่สามารถใช้การได้ ส่งผลทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีน้ำสำหรับอุปโภค ทำการเกษตรและปศุสัตว์ ได้
นายไพรินทร์ กระโพธิ์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เมื่อช่วงหน้าแล้งปี 2560 ทางผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน ได้มีการประชุมหมู่บ้านเกี่ยวการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว และที่ประชุมมีมติ ให้ขุดลอกหนองน้ำสาธารณะหนองเมย ที่มีสภาพตื้นเขิน ไม่สามารถใช้การได้ โดยให้ผู้รับเหมา ขุดดินที่เป็นคันคูหนองเดิมออกไป จากนั้นให้ดำเนินการขุดลอกหนองเมยที่ตื้นเขินให้มีความลึกและกว้างขึ้นกว่าเดิม เพื่อเตรียมเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งผู้รับเหมาได้มีการขุดตักดินที่เป็นคันคูหนองเดิมออกไปทั้งหมด แต่ไม่ทราบว่านำดินดังกล่าวไปเก็บไว้ในที่แห่งใด และไม่มีการดำเนินการขุดลอกหนองเมยให้แล้วเสร็จตามมติที่ประชุม กระทั่งผ่านไป 3 ปี ก็ยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว ชาวบ้านจึงเกิดข้อสงสัยว่าดินที่เป็นคันคูหนองเดิมหายไปไหน แล้วเหตุใดไม่มีการขุดลอกหนองน้ำดังกล่าว ซึ่งส่งผลทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าว ในการอุปโภค การเกษตร และการปศุสัตว์ จึงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
ด้าน นายอนุสรณ์ แสงกล้า นายอำเภอวังหิน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอวังหิน พร้อมด้วย นายก อบต.ทุ่งสว่าง กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นพบว่าหนองน้ำดังกล่าวเดิมมีสภาพตื้นเขินชาวบ้านจึงได้ทำการประชาคมและขุดลอกคล้ายกับลักษณะโครงการดินแลกน้ำ แต่ดำเนินการโดยราษฎร ไม่ได้ใช้งบประมาณของราชการ แต่ด้วยเมื่อปี 2560 ระหว่างการขุดลอก มีฝนตกและน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการขุดต่อเนื่องได้ ปีต่อมาแหล่งน้ำสามารถเก็บกักน้ำได้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ได้ดี จนกระทั่งในปี 2563 เกิดความแห้งแล้งมากทำให้ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้จึงเกิดสภาพแห้งแล้งไม่มีน้ำตามที่ปรากฏ ซึ่งได้กำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขเพื่อให้มีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตรสำหรับพี่น้องประชาชนได้ใช้ต่อไป
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ