“เลิศรัตน์” ตั้งกระทู้ถาม นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุม สว. เร่งเดินหน้าแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก –ผลักดัน อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”
1 min readพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี ในที่ประชุมวุฒิสภา ผ่านประธาน ในการประชุมวุฒิสภา ตามกระทู้ถาม ที่ 009 ว่า รัฐบาลมีแผนงานพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก อย่างไรบ้าง และรัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก หรือไม่อย่างไร
โดยประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น วุฒิสภา ได้ อภิปรายตามที่ยื่นข้อกระทู้ ว่า ด้วย อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ตั้งจุดผ่านแดนถาวรเชื่อมต่อกับ จ.เมียวดี สหภาพเมียนมา บนเส้นทางระเบียงสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก โครงการพัฒนาระบบคมนาคม แนวทางการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 12 (East-West Economic Corridor : EWEC) ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคม และการขนส่งเพื่อเชื่อมโยงและรองรับยุทธศาสตร์ เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก – ตะวันตก ทำให้ด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี มีมูลค่าการค้าชายแดนหลายหมื่นล้านบาท มีนักธุรกิจเดินทางมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง อ.แม่สอด จึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ที่พร้อมรองรับการลุงทุนทั้งภาคพาณิชยกรรม-ภาคอุตสาหกรรม-ภาคเกษตร-เกษตรอุตสาหกรรม-การค้า-และการท่องเที่ยว ฯลฯ ประกอบกับรัฐบาลได้ประกาศให้จังหวัดตาก เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก ไปแล้ว รวมทั้งมีการจัดตั้งสำนักงานอาคารเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก(แม่สอด) โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้มาตั้งสำนักงาน และยังมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานรองรับไว้มากมาย เช่น สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 , อาคารที่พักสำนักและระบบรันเวย์สนามบินนานาชาติแม่สอด หลังใหม่,โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าและประปา,โครงการด่านพราแดน 2 ,ระบบสื่อสารและเทคโนโลยี, ฯลฯ แต่ที่ผ่านมา การขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก ล่าช้ามาก เพราะมีอุปสรรคและปัญหามากมาย เช่นข้อจำกัดเรื่อง อำนาจหน้าที่ ของหน่วยงานในพื้นที่และท้องถิ่น โดยเฉพาะเทศบาลนครแม่สอด ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ,ปัญหาข้อจำกัดเรื่องผังเมือง, เรื่องการขนส่งข้ามแดน, พื้นที่แลนด์มาร์คแห่งใหม่, ข้อกำหนดสิทธิประโยชน์ที่เอื้อให้นักลงทุนที่ต้องพิเศษ, เพราะมีข้อจำกัดและปัญหาดังกล่าว ทำให้มีกลุ่มทุนจีน ได้ตัดสินใจไปลงทุนในเมียนมา ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเช่าพื้นที่ ในสหภาพเมียนมา 500,000 ไร่ (เมืองใหม่โก๊กโก่) เป็นเมืองใหม่ที่ทันสมัยและสมบรูณ์แบบ มีอาคารพาณิชย์,บ้านพัก, โรงพยาบาล,สถานศึกษา, สถานบันเทิง ,โรงแรม, ฯลฯ ด้วยการลงทุนมหาศาล จากนั้นไม่เกินปี 2570 จะมีชาวจีนเดินทางมาอยู่นับล้านคน รวมทั้งจะมีการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เชื่อม กรุงย่างกุ้ง-คุนหมิง-เมืองใหม่ โก๊กโก่ ,เส้นทางมอเตอร์เวย์ เมืองใหม่โก๊กโก่ ไปเมืองมะละแหม่ง(เมาะลำไย) ฯลฯ โดยไม่ผ่านประเทศไทย ทำให้ไทยไม่ได้รับประโยชน์ ทำให้การลงทุนของนักธุรกิจจีน กลุ่มหย่าไถ้ ที่ชายแดนแม่สอด-เมียวดี ย่อมส่งผลกระทบต่อเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก จึงมีความจำเป็น ที่รัฐบาลและภาครัฐ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ล่าช้า ให้กลับมารวดเร็วและเป็นรูปธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุมวุฒิสภา ได้รับทราบ และรัฐบาลจะได้นำไปประสานงาน ตามข้อกระทู้ของพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2563 ต้นปีที่ผ่านมา พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา และศึกษาดูงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ที่ อ.แม่สอด และศึกษาดูงานที่เทศบาลนครแม่สอด รวมทั้งร่วมประชุมกับนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมาธิการ ฯมีแผนที่จะผลักดันให้เทศบาลนครแม่สอด เป็นเป็น อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” จนนำไปสู่การยื่นกระทู้ถาม รัฐบาล