จับผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์ คาผ้าเหลือง หลังก่อเหตุหลบหนีไปบวช
1 min readเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.63 พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.ร่วมกันจับกุมตัวนายสมเย็น สุสังวรณ์อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.17 ต.กระสัง อ.เนินสูง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 354/57 ข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม สามารถจับกุมตัวได้ที่วัดดงยาง หมู่ 4 ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ขณะบวชเป็นพระ ได้มาบวชเมื่อวันที่ 29 มี.ค.63
พ.ต.ท.ศุภชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับคดี วิ่งราวทรัพย์ ปี 36 สน.มีนบุรี ตัดสินจำคุก 2 ปี คดีวิ่งราวทรัพย์ ปี 44 สน.ราฎร์บูรณะ 20 คดี ศาลตัดสินจำคุก 65 ปี แต่ติดจริง 13 ปี ปี 59 ถูกจับคดีวิ่งราวทรัพย์ สน.พระขโนง จำคุก 4 ปี 6 เดือน ปล่อยตัวเดือน ต.ค.62 ได้ไปทำงานก่อสร้าง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนมีการแพร่บาดไวรัสโควิด-19 จึงกลับไปอยู่บ้านญาติที่ จ.สุโขทัย ก่อนจะบวชเป็นพระ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ โดยนายสมเย็น ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ให้การปฎิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุในคดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 ส.ค.57 เวลา 06.00 น. ขณะที่ น.ส.ศิรพันธ์ บัณฑิตย์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/41 ซ.ติวานนท์ 35 อ.เมือง จ.นนทบุรี กำลังรอจะใส่บาตรอยู่ บริเวณหน้าบ้าน มีคนร้ายจำนวน 3 คน ทำร้ายร่างกาย ด้วยการรุมเตะ ต่อย จนได้รับบาดเจ็บ แล้วคนร้ายได้ปล้นเอาสร้อยทองคำหนัก 2 บาทหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่า 1 ในคนร้ายได้ทำโทรศัพท์ตกไว้ จึงได้นำโทรศัพท์ไปตรวจสอบ พบว่าเป็นของนายสุวิทย์ สุสังวรณ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.17 ต.กระสัง อ.เนินสูง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ หลังนายสุวิทย์หลบหนีไปอยู่กับภรรยา ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวน
จากการสอบสวนนายสุวิทย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายสมเย็น สุสังวรณ์ อายุ 44 ปี พี่ชาย และนายสุพัฒน์ เชื้อเมืองพาน อายุ 56 ปี ก่อเหตุปล้นทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มาแล้วกว่า 10 ครั้ง หลังก่อเหตุได้หลบหนีกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ และก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่บ้านเกิด แล้วได้หลบหนีกลับมา กทม. จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาจับกุมตัวได้ ส่วนนายสมเย็น พี่ชาย ได้หลบหนีไปกับนายสุพัฒน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีแล้ว
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี