สุรินทร์ คืบหน้าฆ่าปาดคอ!! กู้ภัยเร่งงมหาหลักฐานในสระ 4 แห่ง ครอบครัวเผาศพแล้ว

สุรินทร์ คืบหน้าฆ่าปาดคอ!! กู้ภัยเร่งงมหาหลักฐานในสระ 4 แห่ง ครอบครัวเผาศพแล้ว หลัง ลงมือฆ่าฟันหัวเหวอะหวะ-ปาดคอเกือบขาด ถึง 8 แผล อย่างโกรธแค้น ตำรวจยังมืดแปดด้านส่งสารคัดหลั่งตรวจเทียบดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ ชาวบ้านวอนให้จับได้โดยเร็ว เพราะอยู่อย่างหวาดผวา

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณี มีผู้พบศพนายหรรษา วิบูลย์เพ็ง อายุ 54 ปี ถูกฆาตกรรม นอนเสียชีวิต อยู่บนเตียง ภายในกระท่อมสวนเกษตรพอเพียง หลังบ้านของตนเอง เลขที่73 บ้านโคกปันโร หมู่ที่ 9 ต.ตรำดม (ตะ-รำ-ดม) อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ สภาพศพ ถูกของมีคมฟันเป็นแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่ ที่บริเวณศีรษะ อาทิ ที่บริเวณท้ายทอย 3 แห่ง ขมับ ใบหน้าและลำคอถูกเชือดจนหลอดลมขาด รวมแผลทั้งหมด 8 แห่ง เลือดไหลนองพื้น และคนร้ายยังนำศพมาจัดให้อยู่ในท่านอนเหมือนคนนอนตามปกติอีกด้วย

เหตุเกิด เมื่อเวลาประมาณ ตี 3 ของเช้าวันที่ 5 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ก่อนที่ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ภรรยาและลูกๆมาพบศพ ถึงกับร้องให้โฮ ด้วยความเสียใจอย่างเสร้าสลด อีกทั้ง ผู้ตายซึ่งเป็นพ่อและสามี ไม่เคยไปมีเรื่องราวกับใคร หลังจากที่หยุดขายของที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ มานานหลายเดือน ก่อนกลับมาทำเกษตรทฤษฏีใหม่ที่บ้านของตนเอง ไม่นานกลับมาถูกฆาตกรรมเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมืดแปดด้าน ส่วน บรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ ต่างพากันนำรูปของผู้ตายมาโพสต์ลงโซเชี่ยล แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสาปแช่งคนร้ายที่ก่อเหตุจำนวนมาก และต่างวิงวอน ขอให้ จนท.ตำรวจ เร่งจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะผู้ตายเป็นพ่อค้าขายอาหาร ที่เปิดร้านขายอาหาร อาทิ ก๋วยเตี๋ยว และก๋วยจั๊บ ภายในวหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ ซึ่งมีมนุษย์สัมพันธ์ดี จึงเป็นที่รักใคร่ของ นศ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ อย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ (8 มิ.ย.63) ทางครอบครัวและญาติพี่น้องได้ทำพิธีฌาปนกิจศพผู้ตาย ไปแล้วในช่วงสายของวันนี้ที่วัดบ้านโคกปันโร ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลดแม้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ก็ตาม ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานศพยังคงพากันนั่งจับกลุ่มวิพากย์วิจารณ์และสาปแช่งฆาตกรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ จากหน่วยกู้ชีพ ต.ตระแสง และหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ ซึ่งได้รับการประสานจาก จนท.ตำรวจ สภ.ลำดวนให้ช่วยงมหาหลักฐาน ที่เชื่อว่าคนร้ายอาจจะนำไปทิ้งตามแหล่งน้ำในบริเวณรัศมีใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทั้งหมู่ที่ 1 และ ม.9 จำนวน 4 แห่งแล้ว แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ขณะที่ จนท.พิสูจน์หลักฐานสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมรอยนิ้วมือแฝงและสารคัดหลั่งต่างๆในกระท่อมที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา แล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ดำรงค์ เจริญศิริ รอง.ผกก.สอบสวน สภ.ลำดวน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ตำรวจยังไม่ได้ตั้งประเด็นถึงสาเหตุการณ์ฆาตกรรม เนื่องจากอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ซึ่งได้มีการเรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำแล้ว 4-5 ปาก ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก โดยเฉพาะพยานที่พบเห็นศพผู้ตายเป็นคนแรก ซึ่งเป็นอดีตครู วัย 60 ปี ที่สนิทสนมกับครอบครัวผู้ตาย และอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กอีกหลังในพื้นที่เดียวกันกับบ้านของผู้ตาย ซึ่งให้การในเบื้องต้นว่า คืนวันที่เกิดเหตุ ช่วงค่ำ ผู้ตาย ภรรยาผู้ตาย ลูกสาวผู้ตาย และอดีตครู ได้นั่งทานอาหารเย็นร่วมกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกัน โดยผู้ตายออกไปนอนที่กระท่อมที่เกิดเหตุ ส่วนอดีตครูมานั่งดูทีวีอยู่กับภรรยาและลูกของผู้ตายอยู่ในบ้าน ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน และตื่นออกไปดูสวนในช่วงเวลาประมาณตี 3 ถึงตี 4 ของทุกวันเป็นปกติ แต่ระหว่างนั้นก็เห็นว่าผู้ตายนอนอยู่ในกระท่อมที่เกิดเหตุอีกหลัง ไม่คิดว่าจะถูกฆาตกรรมแล้ว จึงเรียกชื่อ แต่ก็ไม่ได้มีเสียงตอบรับกลับมา จนเวลาผ่านไปสักระยะ ก็ได้เรียกอีก จึงแปลกใจเดินไปดูก็ถึงกับผงะและตกใจอย่างมาก ก่อนที่จะวิ่งไปเรียกให้ภรรยาและลูกสาวของผู้ตายมาดูและแจ้งให้ จนท.ตำรวจทราบ ซึ่งอดีตครูรายนี้ก็ให้การอย่างไม่มีพิรุธใดๆ จึงได้ให้กลับบ้าน แต่อดีตครูรายนี้ก่อนจะกลับ ซึ่งมีญาติมารับ ก็ได้ถามตนว่า จะกลับไปที่งานศพดีหรือไม่หรือจะกลับบ้านตนเองดี ซึ่งอดีตครูจึงตัดสินใจกลับบ้านไปกับญาติก่อน เพราะเกรงว่า จะมีชาวบ้านเข้าใจผิด และอาจถูกทำร้ายก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม จนท.ตำรวจได้นำสารคัดหลั่งจากตัวครูส่งตรวจดีเอ็นอีเปรียบเทียบที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา พร้อมกับสารคัดหลั่งของหนุ่มในหมู่บ้าน ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุอีกคน ที่พบว่าหายตัวไปในช่วงวันเกิดเหตุ และถูกตามตัวพบ ก่อนนำมาสอบปากคำ ก็ไม่พบพิรุธเช่นกัน อย่างไรก็ตามก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ และการลงพื้นที่หาข่าวของ จนท.ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.สุรินทร์ และสภ.ลำดวนอีกครั้ง และคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายในเร็วๆนี้ เพราะชาวบ้านต่างอยู่กันอย่างหวาดผวา

นางแย้ม อาจหาญ อายุ 63 ปี ญาติของผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.1 ต.ตำดม อ.ลำดวน กล่าวว่า ผู้ตายนิสัยดี เหมือนผู้หญิง ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่อาชีวศึกษาสุรินทร์ แต่ช่วงโควิด ก็กลับมาพักทำสวนที่บ้าน นิสัยเหมือนกระเทย ญาติพี่น้องต่างเสียใจ 4 วันแล้วคดียังไม่คืบหน้า อยากฝากให้ จนท.ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายโดยเร็ว ญาติพี่น้องชาวบ้านต่างหวาดผวา เกิดมา ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์โหดเหี้ยมแบบนี้ เคยเจอแต่ในทีวี ไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับญาติพี่น้องของเรา โดนฟันหัวหลายแผล ถ้าคนร้ายสำนึกผิดก็ให้กลับมามอบตัวซะ จนท.ตำรวจก็พยายามหาหลักฐานทุกซอกทุกมุมก็ไม่เจออะไรสักอย่าง

นายจำนงค์ วิบูลย์เพ็ง ผู้ใหญ่บ้านโคกปันโร และเป็นพี่ชายของผู้ตาย กล่าวว่า เวลาประมาณตีสาม 57 นาที มีญาติโทรศัพท์ไปแจ้งตนเองว่า น้องชายถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว ตนมองว่า คนที่ฆ่ามีความละเอียดละออมาก มีการจัดวางศพให้นอนขาเหยียดตรง มือสองข้างวางที่หน้าอก นอนหงายเสียชีวิต แผลแต่ละแผลมีความยาว 12-13 ซ.ม. ทั่วบริเวณศีรษะและใบหน้า รวม 8 แผล เหมือนโกรธแค้น ไตร่ตรอง และจงใจวางแผนมาฆ่าโดยเฉพาะ ที่ลำคอ ปาดจนลูกกระเดือกขาดจนถึงกระดูกด้านใน น่าจะเตรียมการไว้นาน เหมือนคนที่ชอบดูหนังฝรั่ง เหมือนดูวิธีฆ่า มีการอำพราง ทรัพย์สินก็ไม่มีหาย เขามีจิตวิทยาการฆ่าอำพรางและไม่ทิ้งร่อยรอยใดๆไว้ ทาง จนท.ตำรวจเองก็ทำหน้าที่เต็มที่ ทำงานทั้งกลางวันกลางคืนอย่างไม่หยุด ซึ่ง จนท.กู้ภัยก็พยายามงมหาหลักฐานการฆ่าต่างๆตามสระน้ำ ตนคิดว่าน่าจะใช้ขวาน ส่วนน้องชายของตน ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ เขาเป็นคนอ้อนแอ้น ชอบแต่งตัวและค้าขาย เป็นคนพูดน้อย เรียบง่าย ส่วนหนุ่มต้องสงสัยที่หายไป ก็หาตัวพบแล้ว จนท.ก็สอบปากคำอยู่ ซึ่งก็ได้แต่ภาวนาให้จับคนร้ายได้โดยเร็ว